ผู้เขียน: admin

  • ‘พลับพลึงธาร’ ตระการตา ในคลองนาคา

    เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง

    ทุกปีเมื่อสายลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่าน เข้ามา ผืนน้ำใสแจ๋วของคลองนาคาจะงดงามจับตา ด้วยดอกไม้ในธารน้ำ นาม ‘พลับพลึงธาร’ ที่สร้าง ความตื่นตาให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น พลับพลึงธาร เป็นพืชน้ำที่มีดอกสีขาว กลีบยาวเรียว พบได้แห่ง เดียวในโลก คือคลองนาคาเท่านั้น นอกจากดอกขาว สะอาดดูสวยสะอ้านรับกับสายน้ำใสที่แสงแดดส่อง ทะลุลงไปถึงพื้น พลับพลึงธารยังส่งกลิ่นหอมอ่อน เมื่อบานเต็มที่ จึงเรียกกันอีกชื่อว่า ‘หอมน้ำ’ บ่งบอก ความพิเศษของพรรณไม้นี้ได้อย่างชัดเจน

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่พลับพลึงธารผลิพร่างเหนือผืนน้ำ คลองนาคาเพียงช่วงเดียวใน 1 ปี


  • ตามหา ‘โลมาอิรวดี’ ในทะเลสาบลำปำ

    โลมาอิรวดี ในทะเลสาบลำปำ

     

    อำเภอเมืองฯ จังหวัดพัทลุง

    นอกจากทะเลน้อยซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติอันน่าทึ่งแล้ว พัทลุงยังมีสิ่งมีชีวิตหายาก ที่พบเพียง 5 แห่งในโลก* อาศัย อยู่ในทะเลสาบลำปำ อันเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลสาบ สงขลาอีกด้วย สิ่งมีชีวิตแสนพิเศษนั้นคือโลมาอิรวดี ที่คน เมืองลุงเรียกกันว่า ‘หัวหมอน’ สัตว์เลือดอุ่นที่มีลำตัวสีเทา อมฟ้า หรือบางตัวก็มีสีดำอมเทา ด้วยหน้าตาน่าเอ็นดูและ ลีลาการกระโดดน้ำ ทำให้หลายคนอยากชมความน่ารักด้วย สายตาตัวเอง แม้ว่าจำนวนโลมาอิรวดีในทะเลสาบลำปำ จะลดลงเหลือเพียง 25-30 ตัว แต่นักท่องเที่ยวก็มีโอกาส เห็นเจ้าหัวหมอน หากออกเรือล่องไปในทะเลสาบลำปำ เวลา 07:00-08:00 น. เพราะโลมาอิรวดีมักกระโดดเล่นน้ำ ในช่วงเวลานี้

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ปลอดฝน เหมาะกับการล่องเรือออกตามหาโลมาอิรวดี 

    *พื้นที่ธรรมชาติ 5 แห่งในโลกที่พบโลมาอิรวดี คือ แม่น้ำอิรวดี พม่า, แม่น้ำโขง ลาว-กัมพูชา, ทะเลสาบซิลิกา อินเดีย, แม่น้ำมะหะขาม อินโดนีเซีย และทะเลสาบสงขลา ไทย

  • ‘นกน้ำ’และ‘บัวบาน’ ละลานทะเลน้อย

    ทะเลน้อย จ.พัทลุง

    เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

    หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในจังหวัดเล็กๆ ซึ่งมีเขาอกทะลุเป็นสัญลักษณ์ เป็นสถานที่เก็บงำของดีระดับชาติไว้ได้อย่างน่าชื่นชม ที่นั่นคือทะเลน้อย ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลา มี ‘พรุควนขี้เสียน’ พื้นที่ชุ่มน้ำเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ และพรุผืนนี้เองที่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ(Ramsar Site) แห่งแรกของประเทศไทย

    ทะเลน้อยอุดมสมบูรณ์ด้วยสรรพชีวิต ทั้งเหนือน้ำ ใต้น้ำ และรายรอบผืนน้ำ การไปเยือนทะเลน้อยควรไปแต่เช้าเพื่อลงเรือตระเวนดูดอกบัวหลากหลายชนิดที่พากันเบ่งบานอวดความงดงามรับวันใหม่ ซึ่งระหว่างทางจะได้เห็นนกน้ำมากมาย หรือถ้าไม่อยากลงเรือ การได้เดินชมธรรมชาติไปตามสะพานไม้รอบที่ทำการฯ ก็มีนกน้ำ เช่น นกอีโก้ง นกพริก ฯลฯ และพรรณไม้น่าสนใจ อย่างกระจูด บัวสาย จอกหูหนู ฯลฯ ให้ดูเพลินไปตลอดทาง

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อากาศดี ฟ้าสดใส ดอกบัวหลากหลายสายพันธุ์เบ่งบานงดงามถ้าอยากดูนกอพยพต้องไปในช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม

     

     

  • ไปดูเรือนยอดป่าดิบที่ “ทุ่งค่าย”

    เรือนยอดป่าดิบ ที่ทุ่งค่าย

    สวนพฤกษศาสตร์ ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง

    สุดยอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติหนึ่งเดียวของเมืองไทยคือเส้นทางสะพานไม้ที่เชื่อมต่อระหว่าง 7 หอสูงเทียมยอดไม้ บนความสูง 10-22 เมตร ความยาว 245 เมตร ซึ่งนำพาคนรักธรรมชาติไปชื่นชมผืนป่าจากที่สูงในมุมมอง ของนก หลังจากได้อิ่มตาอิ่มใจกับความแน่นทึบเขียวครึ้มของป่าถิ่นใต้ในมุมมองพิเศษแล้ว เมื่อก้าวลงสู่พื้นเบื้องล่าง ยังมีพรรณไม้ถิ่นใต้มากกว่า 2,000 ชนิด บางชนิดพบได้ในภาคใต้เท่านั้น เช่น ปาล์มเจ้าเมืองตรัง ปาล์มหลังขาว ปาล์มพระราหู ปาล์มช้างร้องไห้ ฯลฯ จัดแสดงเป็นหมวดหมู่ มีป้ายชื่อชนิดและคำอธิบายสั้นๆ อ่านเพลินและได้ความรู้ไปพร้อมๆ กัน

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: น่าเดินชมที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม


  • ลอยเรือมุดใต้พิภพที่ ‘ถ้ำเลเขากอบ’

    ถ้ำเลเขากอบ

    อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

    เที่ยวถ้ำแบบไม่ซ้ำใครด้วยการลงเรือท้องแบนล่องลัดเลาะผืนป่าดิบเข้าไปในโถงถ้ำอันอลังการด้วยประติมากรรมหิน ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นวงรอบที่เรือเคลื่อนตามแรงพายเข้าไปในโถงถ้ำซึ่งประดับแสงไฟให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เรียงรายด้วยกลุ่มหินงอก หินย้อย เสาหิน ม่านหินย้อย ฯลฯ รูปลักษณ์แปลกตา ทว่าประติกรรมธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุด คือหลอดหินย้อยสีขาวสะอาดนับพันนับหมื่นที่ยื่นล้ำลงจากผนังถ้ำ เรียงรายเป็นแท่งหินเรียวยาวคล้ายหลอด สร้างความตื่นตาให้นักท่องเที่ยวมานับไม่ถ้วน ระหว่างทางล่องเรือผ่านโถงถ้ำที่หลายคนเปรียบเปรยว่าคล้ายกับการลอดท้องมังกร เรือจะจอดให้ลงไปเดินเที่ยวชมความงามของโถงถ้ำต่างๆ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำรากไทร ถ้ำท้องพระโรง ฯลฯ สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด คือการจับต้องหินงอก หินย้อย ม่านหิน ฯลฯ โดยเฉพาะการใช้ปลายนิ้วไปแตะหยดน้ำใสที่เอ่ออยู่ตรงปลายหลอดหินย้อย เพราะนั่นคือการ ‘ฆ่า’ เนื่องจากไขมันที่ปลายนิ้วจะไปเคลือบปิดการเติบโตของหินปูน หลอดหินย้อยนั้นจะไม่ยื่นยาวอีกต่อไป และจะกลายเป็นสีเหลืองคล้ำไร้ชีวิตอย่างน่าเสียดาย

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ลงเรือมุดถ้ำเลเขากอบได้ตลอดทั้งปี