ผู้เขียน: admin

  • เพลินชม ‘นางงาม’ ชิมความอร่อย

    เพลินชม ‘นางงาม’ ชิมความอร่อย ณ เมืองเก่าสงขลา

    ถนนนางงาม อำเภอเมืองฯ จังหวัดสงขลา

    พาตัวเองเข้าไปสัมผัสความงดงามดั้งเดิมของตึกโบราณ ทั้งสไตล์ชิโน-โปรตุกีส และตึกแถวแบบจีน ที่เรียงรายอยู่สองฝั่งทางของถนนสายเล็กๆ ชื่อ ‘นางงาม’ เพื่อย้อนเยือนสู่เมืองที่เคยรุ่งเรืองเมื่อช่วงเวลากว่าร้อยปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเลื่องชื่อในฐานะถนนสายวัฒนธรรม ที่ยังคงภาพวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีน และมากมายด้วยอาหารการกินแสนอร่อยที่หากินได้ยากในถิ่นอื่น เช่น ขนมทองเอก ขนมเทียนสด ขนมจูจุ๋น ฯลฯ สูตรเฉพาะของย่านนางงาม

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าไปในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งมีการจัดงาน ‘สงขลาแต่แรก ถนนคนเดิน เพลินกินของหรอย ย้อนรอยบ่อยาง’ ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศครึกครื้นและได้ลิ้มรสของกินอร่อยๆ ของย่านนางงามอย่างเต็มอิ่ม


  • หย่อนความคิดถึงลง “ตู้ไปรษณีย์ยักษ์”

    หย่อนความคิดถึงลง “ตู้ไปรษณีย์ยักษ์”
     
    อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

     ความคิดถึงจะทวีคุณค่ามากขึ้นเมื่อผ่านกาลเวลาแห่งการบ่มเพาะ เช่น การส่งผ่านทางจดหมายหรือไปรษณียบัตร แทนการคลิกทันใจผ่านแป้นคอมพิวเตอร์หรือปุ่มโทรศัพท์ อีกทั้งความรู้สึกของการระลึกถึงกันยังถูกถ่ายทอดลงสู่แผ่นกระดาษเล็กๆ ทว่ามากความทรงจำในวันที่หยิบมาสัมผัสและคิดถึงความคิดถึงนั้นอีกครั้ง และถ้าคุณไปเยือนเบตง การส่งข้อความถึงใครสักคนโดยหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ยักษ์ อันเป็นดั่งสัญลักษณ์ของจังหวัดยะลา ก็น่าจะเป็นความทรงจำที่ดี ตู้ไปรษณีย์รูปทรงกระบอก สีแดงสด สูงถึง 320 เซนติเมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2467 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งเพื่อรองรับจดหมายและเพื่อกระจายข่าวสารถึงชาวเมืองเบตงผ่านวิทยุที่ฝังอยู่ตรงส่วนบนของตู้ ซึ่งทุกวันนี้ตู้สีแดงกลางเมืองเบตงตรงสี่แยกหอนาฬิกา ยังคงทำหน้าที่รับจดหมายและไปรษณียบัตรเพื่อส่งสู่คนไกลอีกปลายทางหนึ่งเฉกเช่นวันวาน

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เที่ยวเบตงได้ทั้งปี หย่อนความคิดถึงได้ทุกเวลา



  • เยือน ‘คีรีวง’ ชมชีวิตท่ามกลางสวนสมรม

    อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช

    เยือน ‘คีรีวง’ ชมชีวิตท่ามกลางสวนสมรม

    บ้านคีรีวงนับเป็นอีกหนึ่งสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในเมืองคอน ไม่ใช่เป็นเพียงเพราะว่าหมู่บ้านเชิงเขาหลวงแห่งนี้ได้รับรางวัล
    ยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ไทยแลนด์ทัวริสซึ่ม อวอร์ด) หรือรางวัลกินรี จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
    ทว่าเป็นเพราะหมู่บ้านเก่าแก่นี้ยืนหยัดและมั่นคงในวิถีชีวิตชาวสวนที่พึ่งพิงอาศัยธรรมชาติด้วยความเข้าใจตลอดมา
    คนคีรีวงเติบโตร่วมกับผืนป่า ขุนเขา มาอย่างรู้รักษ์ธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นให้ใครต้องมาบอกกล่าว นอกเหนือจากสวนสมรม
    ที่พวกเขาปลูกผลไม้ร่วมในพื้นที่ป่าโดยไม่ตัดถางต้นไม้สักต้น

    ชาวบ้านยังนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นของที่ระลึกมากคุณค่า เช่น ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ สบู่-แชมพู
    ทำจากเปลือกมังคุด ฯลฯ และในอนาคต คีรีวงกำลังจะได้รับการประกาศให้เป็นชุมชนที่มีอากาศบริสุทธิ์แห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: กรกฎาคม-กันยายน เป็นช่วงที่ผลไม้ออกผลดกดื่น

  • เยี่ยม ‘บ้านหนังตะลุง’ ที่เมืองคอน

    อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    เยี่ยม ‘บ้านหนังตะลุง’ ที่เมืองคอน

    หนังตะลุงคือศิลปะการแสดงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ นอกเหนือจากการแสดง “ตัวหนัง” ก็นับเป็นงานศิลปหัตถกรรมที่น่าสนใจควบคู่กัน ซึ่งที่บ้านของคุณสุชาติ ทรัพย์สิน นายหนังตะลุงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของภาคใต้ ได้รวมความเป็นที่สุดของศิลปะแดนใต้ไว้ด้วยการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์หนังตะลุง หรือ บ้านหนังตะลุง อย่างมีชีวิตชีวา

    นอกจากพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงจะเป็นที่รวบรวมตัวหนังมากมาย ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวหนังเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี และตัวหนังจากประเทศต่างๆ แล้ว ยังมีการสาธิตการแกะตัวหนังและการเชิดหนังตะลุงให้ดูกันอย่างสนุกสนานครึกครื้น สมกับการเป็นเจ้าของรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ไทยแลนด์ทัวริสซึ่ม อวอร์ด) หรือรางวัลกินรี ประจำปี 2539 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มอบให้อย่างเต็มใจ

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าไปในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะได้ลิ้มรส มังคุดคัด ซึ่งเป็นของกินหนึ่งเดียวของเมืองคอน ที่มีขายตามร้านอาหารและในตลาดใหญ่ๆ ของเมือง

     

  • สวนงู สถานเสาวภา

    ที่นี่เป็นสวนงูที่เก่าแก่เป็นที่สองของโลก เป็นแห่งแรกในเอเชีย เป็นที่เลี้ยงงูพิษเพื่อรีดพิษสำหรับการผลิตเซรุ่มแก้พิษงู และเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งหนึ่งทั้งระดับชาติและนานาชาติ

    ผลงานของสวนงูแห่งนี้ได้ปรากฏใน National geographic magazine ในนิตยสารการท่องเที่ยวต่างประเทศ และได้รับการนำเสนอในสารคดีความรู้ รวมทั้งการแนะนำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโทรทัศน์อยู่เสมอ

    ในปีหนึ่งๆ มีผู้เข้าชมสวนงูประมาณ 40,000 คน 60% เป็นชาวต่างประเทศ และ 20% เป็นนักเรียนและนักศึกษา

    ตึก ๔ มะเสง นี้ใช้เป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการสำหรับงูพิษ พอซื้อตั๋วแล้วระหว่างรอดูโชว์ก็เข้ามาดูนิทรรศการที่นี่ก่อนนะ

     

     

    ห้องชมภาพยนตร์แสดงการออกฤทธิ์ของพิษงูต่อมนุษย์หรือสัตว์

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตู้ฟักไข่งู

     

     

     

     

      

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สวนงู ได้มีการจัดสาธิตการจับงู และรีดพิษงู โดยมีกิจกรรมดังนี้

     วันจันทร์ – ศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการ) 9.30 – 15.30 น.

    11.00 น. การรีดพิษงู ภายในเวทีสาธิตการรีดพิษ ตึก ๔ มะเสง
    14.30 น. สาธิตการจับงูหลากหลายชนิด พร้อมถ่ายรูปกับงูหลาม บนอัฒจันทร์กลางแจ้ง สวนงู

     วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 9.30 – 13.00 น.
    11.00 น. สาธิตการจับงูหลากหลายชนิด พร้อมถ่ายรูปกับงูหลาม บนอัฒจันทร์กลางแจ้ง สวนงู

     ราคาบัตรผ่านประตู

    สำหรับคนไทย  ผู้ใหญ่ 40 บาท  นักเรียน/นักศึกษา 20 บาท เด็ก 10 บาท
    สำหรับชาวต่างชาติ  ผู้ใหญ่  200 บาท  เด็ก 50 บาท

     ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่   www.saovabha.com/th/snakefarm_service.asp