ผู้เขียน: admin

  • ตื่นตากับความงามของ ‘วังยะหริ่ง’

    วังยะหริ่ง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

    เมื่อก้าวผ่านพ้นเขตรั้วของวังยะหริ่งเข้าไป ไม่มีใครไม่สะดุดตากับเรือนไม้กึ่งปูนสีเขียวนวลตาหลังใหญ่ ซึ่งงดงามวิจิตรด้วยลวดลายสลักเสลาไม้ดูอ่อนช้อยที่หน้าบัน ตามแนวชายคา แนวระเบียง เชิงบันได ฯลฯ อันบ่งบอกถึงฝีมือบรรจงสร้างของช่างสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ผู้เสกสรรค์ให้เรือนสองชั้นที่มีรูปแบบผสมผสานระหว่างศิลปะสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและชวา เป็นสิ่งปลูกสร้างโดดเด่นที่สุดในเมืองเก่าแห่งนี้ วังยะหริ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. 2438 โดยพระยาพิพิธเสนามาตยธิบดีศรีสุรสงคราม

    ความสำคัญนอกเหนือจากความงดงามคือเป็น 1 ใน 7 ของวังที่กระจายอยู่ใน 7 หัวเมือง (ปัตตานี ยะหริ่ง สายบุรี หนองจิก รามัน ระแงะ และยะลา) ซึ่งปัจจุบันวังยะหริ่งเป็นวังที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงามที่สุด

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด:
    เข้าชมความวิจิตรงดงามของวังยะหริ่งได้ทั้งปี

    ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    รวมรวมบทความท่องเที่ยว โดย www.unseentourthailand.com  เว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย

  • ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก นายดำเสนา สาขา ๒

    ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก นายดำาเสนา
    ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก นายดำาเสนา
    รสชาติจี๊ดจ๊๊าดถือว่่าเป็็นเอกลักษณ์์ก๋วยเตีี๋ยวไก่ฉีกต้มยำร้า้านนี้ ชนิดไม่่ต้้องปรุงให้้เสียเวลา รสชาติพอดีมีเปรี้ยวหวานเผ็ด น้ำคลุกคลิกกลิ่นกระเทียมเจียวโชยแตะจมูก หมดชามแรกเป็น็นต้องสั่งชามสองต่อชามสาม
     

    ท่า่นใดกลัวเผ็ดสั่งไม่ยำก็ไม่ผิดกติกาใดๆ นอกจากก๋๋วยเตี๋ยวไก่่ยังเลือกได้ทั้งเนืื้อล้้วน หรือติดหนัง ยัง
    มีก๋วยเตีี๋ยวหมูให้ได้สั่งกินกัน ทีี่นีี่ อร่่อย ประหยัด จริงๆ

     เมนูอร่อย  ก๋วยเตี๋ยวไก่ 10 บาท  ก๋วยเตี๋ยวหมู 10 บาท
    ข้อไก่หม้อดิน 20 บาท

     นายดำาเสนา สาขา๒
    ค.๖๘ ถ.บางเฮียน ต.หอรัตนชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    โทร.0๘ ๖๓๗๘ ๓๒๙0
    เปิดเวลา 0๙.00-๒๑.00 น.ทุกวัน
    ร้า้้นอยู่่ตรงซอยบัวหวาน ถามใครๆ รู้จักดีมีทีี่จอดรถหน้า้ร้า้น
     
      ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    รวมรวมบทความท่องเที่ยว โดย www.unseentourthailand.com  เว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย


  • ขอพรจาก ‘เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว’

    อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

    เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาลเจ้าเล่งจูเกียง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
    ราว 400 ปีก่อน มีเรื่องราวเล่าขานถึงความกตัญญู ซื่อสัตย์ และการรักษาคำมั่นสัญญาของลิ้มกอเหนี่ยว หญิงสาวผู้อาสามารดาออกติดตามพี่ชายที่หลบหนีจากประเทศจีนมาอาศัยอยู่ที่บ้านกรือเซะ เมืองปัตตานี ซึ่งไม่อาจนำพาพี่ชายกลับไปพบมารดาได้ เธอจึงผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ ใกล้กับมัสยิดกรือเซะ
     
    เรื่องเล่านี้ได้สร้างความศรัทธาให้ชาวจีนพากันมากราบไหว้บูชาสุสานของลิ้มกอเหนี่ยวในบริเวณบ้านกรือเซะ และปรากฏว่าเกิดเรื่องราวคล้ายอภินิหาร คือผู้มากราบไหว้บนบานต่างหายเจ็บไข้และมีโชคลาภ ทำให้เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างยิ่งจากวันนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้รูปสลักของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวซึ่งแกะจากต้นมะม่วงหิมพานต์ที่เธอปลิดชีวิตตนเองถูกนำมาประดิษฐานในศาลเจ้าเล่งจูเกียง ถนนอาเนาะรู อำเภอเมืองฯ แทนศาลเจ้าเดิมที่หมู่บ้านกรือเซะซึ่งชำรุดทรุดโทรมไปมากแล้ว และทุกวัน ในศาลเจ้าแห่งนี้ก็จะอบอวลไปด้วยควันธูป บ่งบอกถึงความศรัทธาที่ไม่เคยเสื่อมคลายลงเลย
     
    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ไปขอพรเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวได้ตลอดทั้งปี ถ้าไปในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 (ตรงกับวันมาฆบูชา)
    จะมีงานประเพณีแห่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวไปตามถนนสายต่างๆ ภายในตัวเมืองปัตตานี 
     
    ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    รวมรวมบทความท่องเที่ยว โดย www.unseentourthailand.com  เว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย

  • ไปไหว้พระ ใน ‘วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย’

    วัดชลธาราสิงเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

    วัดชลธาราสิงเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
     วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กลายเป็นโบราณสถานที่รัฐบาลไทยใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการปักปันเขตแดน เมื่ออังกฤษพยายามจะรวมพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส เข้าเป็นแผ่นดินเดียวกับมลายู ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษในขณะนั้น ด้วยการที่วัด ชลธาราสิงเหมีสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมไทยอยู่มากมาย รวมทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติและวิถีชีวิตแบบไทย ทำให้อังกฤษยอมรับเหตุผล และใช้แม่น้ำตากใบเป็นเส้นแบ่งเขตแดนไทย-มาเลเซีย นั่นจึงทำให้วัดนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ‘วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย’
     
    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เข้าไปสักการะได้ตลอดทั้งปี
     

    ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    รวมรวมบทความท่องเที่ยว โดย www.unseentourthailand.com  เว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย

  • ร่วม “เทศกาลถือศีลกินผัก”

    ศาลเจ้าต่างๆ ในทุกอำเภอของจังหวัดภูเก็ต

    เทศกาลถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต
     

     ทุกปีในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 บนเกาะภูเก็ตจะกรุ่นอวลด้วยกลิ่นควันธูป สะอาดตาด้วยชุดสีขาว สะดุดตาด้วยธงเหลืองโบกไสว และหอมหวนด้วยกลิ่นอาหารที่ปรุงจากผักและแป้งในเทศกาลถือศีลกินผัก หรือเทศกาลกินเจ ที่คนจีนเรียกว่า ‘เจี๊ยะฉ่าย’ อันเป็นประเพณีตามลัทธิเต๋า ซึ่งมีการบูชาเซียนเทวดา เทพเจ้า และวีรบุรุษผู้เป็นที่ยกย่องศรัทธา ที่สืบทอดกันมายาวนานหลายร้อยปี

    ความน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของเทศกาลนี้คือวันประกอบพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระ ที่จะมีขบวนแห่ม้าทรง ซึ่งแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการทิ่มเหล็กแหลมแทงตามเนื้อตัวราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวด และพิธีลุยไฟเพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ท่ามกลางเสียงประทัดกึกก้องไปทั้งเมือง ทำให้ภูเก็ตในห้วงยามนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศของความศรัทธาที่ดูอลังการยิ่งกว่าพื้นที่ใดๆ ในเมืองไทย

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ
    เดือน 9 ราวๆ เดือนตุลาคมของทุกปี

     

    ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    รวมรวมบทความท่องเที่ยว โดย www.unseentourthailand.com  เว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย