หมวดหมู่: 50 กิจกรรมท่องเที่ยวเมืองใต้

50 กิจกรรมท่องเที่ยวเมืองใต้

  • ล่องแพเพลินใจในสายน้ำ ‘พะโต๊ะ’

    ล่องแพพะโต๊ะ

     ต้นแม่น้ำหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร

    สนุกสนานกับการล่องแพแบบ เฮฮากันไปเป็นกลุ่ม ณ ต้นแม่น้ำ หลังสวน สายน้ำสำคัญของแดนใต้ ตลอดเส้นทางแห่งการล่องแพนั้น ร่มรื่นด้วยผืนป่าดงดิบเขียวครึ้ม ชุมชนขนาดเล็ก สวนผลไม้เขียว ชอุ่ม ซึ่งหากเป็นช่วงฤดูกาลออกผล นายท้ายจะเบี่ยงแพเทียบฝั่งให้ นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวสวนและ ลิ้มรสผลไม้สดจากต้น นอกจาก เพลินชมวิวทิวทัศน์ ระหว่างทาง ยังอาจได้พบเห็นนกเงือก นกกระเต็น ค่างแว่นถิ่นใต้ ฯลฯ ที่มักลงมาหากินอยู่ริมน้ำ ซึ่งทั้งหมดที่ได้เห็นนั้นคือภาพ สะท้อนที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ ของผืนป่าและสายน้ำที่เอื้ออิงกัน มาแสนนาน

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ล่องแพได้ตลอดปี ถ้าไปในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม จะได้เที่ยวชมสวนและชิมผลไม้จาก ต้น ส่วนประมาณเดือนมกราคม- กุมภาพันธ์ มีการจัดงานเทศกาล ล่องแพพะโต๊ะเชิงอนุรักษ์ ความ คึกคักในสายน้ำก็จะมากขึ้นกว่าเดิม


  • ล่องเรือดูหิ่งห้อย…ใน ‘คลองร้อยสาย’

    คลองร้อยสาย

    คลองในบางแม่น้ำตาปี อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

    ความสงบเงียบและบรรยากาศเรียบง่ายของชุมชนริมน้ำที่ร่มรื่นเรียงรายด้วยป่าจากและต้นลำพู ในบริเวณที่เรียกกันว่า คลองร้อยสาย ซึ่งแยกย่อยออกจากแม่น้ำตาปี คือเสน่ห์น่ารักที่สร้างความประทับใจให้นักเดินทางมาแล้วมากมาย โดย พาหนะที่นำพาไปพบบรรยากาศเช่นนั้นคือเรือลำน้อยที่ลัดเลาะซอกซอนเข้าสู่ชุมชนได้ใกล้ชิดทั้งกลางวันและกลางคืน ความพิเศษที่สุดอยู่ตรงช่วงเวลาหัวค่ำ เมื่อคลองร้อยสายถูกทาบทาด้วยความมืดมิดของราตรีกาล เพราะในห้วงยามนั้น แสงวับวาวของหิ่งห้อยก็จะพริบพราวอยู่ที่ต้นลำพูและดงจากอย่างงดงาม ราวกับแมลงตัวน้อยกำลังแสดงแสงสี ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอยู่บนเรือล่องคลองอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: หิ่งห้อยมีมากในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม การไปชมหิ่งห้อยควรเลือกช่วงต้นฝนและปลายฝน

     


  • ดู ‘บัวผุด’ พ้นพื้น ในป่าเขาสก

    บัวผุด ป่าเขาสก
    เขาสองน้องและ กม. 111 ของทางหลวงหมายเลข 401 อุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ท่ามกลางผืนป่าดิบชื้นแดนใต้อันอุดมด้วยสรรพชีวิต คือถิ่นที่อยู่ของ ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่เรารู้จักในชื่อ ‘บัวผุด’ โดยเฉพาะ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกนั้น นับเป็นพื้นที่ที่พบดอกไม้ยักษ์ชนิดนี้ ได้มากที่สุดในเมืองไทย เพราะที่นี่มี ‘ย่านไก่ต้ม’ พืชจำพวกเถาวัลย์ที่ บัวผุดอาศัยอยู่ร่วมขึ้นอยู่มากมาย ด้วยขนาดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อย กว่า 50 เซนติเมตร และบางดอกก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง 80 เซนติเมตร ทำให้ผู้พบเห็นต่างทึ่งกับขนาดใหญ่โตของดอกไม้สีแดงคล้ำ ที่จะผุดพ้นพื้นเพียงไม่เกิน 7 วัน แต่นั่นยังไม่รวมถึงรูปลักษณ์งดงาม แปลกตา และกลิ่นคล้ายเนื้อเน่าที่บัวผุดใช้ล่อแมลงมาติดกับ ซึ่งนับว่า เตะตาและเตะจมูกผู้มาเยือนไม่แพ้กัน
     
    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: บัวผุดจะทยอยเบ่งบานตลอดทั้งปี สำหรับที่เขาสก ควร ไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เพราะไม่มีฝน เดินป่าสะดวกที่สุด

  • ล่องเรือเหนือ ‘เขื่อนรัชชประภา’

     

    เขื่อนรัชชประภา

    อุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

    หลายคนรู้จักแหล่งชมทิวทัศน์ในทะเลสาบเหนือเขื่อน รัชชประภาในนาม “กุ้ยหลินเมืองไทย” เพราะภาพของ กลุ่มเกาะสีเทาทะมึนที่มีรูปทรงหยึกหยักปรากฏตระหง่าน อยู่ท่ามกลางผืนน้ำกว้างใหญ่นี้ ดูงดงามตระการตา คล้ายคลึงกับเหล่าเขาหินปูนที่กุ้ยหลินในเมืองจีน ยิ่งใน ยามเช้าที่มีสายหมอกลอยเรี่ยปกคลุมเหนือผืนน้ำ และ ลอยเป็นสายแผ่ผ่านขุนเขาอย่างบางเบา ทำให้หมู่หินปูน ดูอ่อนโยนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งนั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับการล่องเรือเข้าไปชมประติมากรรมเขาหินปูน ในแวดล้อมของป่าดิบชื้นผืนใหญ่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนธันวาคม-เมษายน เพราะอากาศกำลังดี ฟ้าแจ่มจ้า ไร้เมฆฝน


  • ‘ศรีรายา’ เมืองท่าโบราณที่ยังมีลมหายใจ

    ศรีรายา จ.กระบี่

     เกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่

    ทอดน่องท่องเที่ยวย่านเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี บนเกาะลันตา พลิกบรรยากาศของการอาบแดด เล่นน้ำ มาย่ำเยือนเมืองศรีรายา อดีตเมืองท่า ที่เฟื่องฟูด้วยการค้าขายทางเรือ ทุกวันนี้ เรือนไม้หน้าแคบที่ทอดยาวลึกลงไปในทะเล ยังเป็นที่อยู่ของชาวศรีรายาเฉกเช่นเดิม นอกจากเรือนแถวไม้เก่าแก่ดูอบอุ่น รอบด้าน ยังร่มรื่นด้วยสวนยางผืนใหญ่ รวมทั้งยังมี พิพิธภัณฑ์ให้เรียนรู้เรื่องเกาะลันตาและผู้คน หลากหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออิงมาแสนนาน

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนพฤศจิกายนถึงกลาง เดือนเมษายน ถ้าไปในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งตรงกับการจัดงาน ‘ลานตาลันตา’ ก็จะได้พบ ความละลานตาของการแสดงทางวัฒนธรรม ในงานเทศกาลประจำปีแสนครึกครื้นอีกด้วย