หมวดหมู่: 50 กิจกรรมท่องเที่ยวเมืองใต้

50 กิจกรรมท่องเที่ยวเมืองใต้

  • ชมพระอาทิตย์ตก ที่ “แหลมพรหมเทพ”

    แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต

    อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต

    บนลานกว้างเหนือหน้าผาสูงที่สามารถทอดสายตาผ่านแหลมเรียวยาวที่ทอดตัวไล่ระดับลงสู่ทะเลผืนใหญ่ คือศูนย์รวมผู้คนมากมายที่เดินทางมาจากหลากหลายทิศทาง ทว่ามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือการรอชมดวงตะวันค่อยๆ ลับลาแผ่นฟ้าลงสู่ผืนน้ำในยามเย็นย่ำ ที่นี่คือแหลมพรหมเทพ

    ที่ซึ่งเราคุ้นเคยชื่อจากประกาศของกรอุตุนิยมวิทยาว่า “วันนี้ ดวงอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต เวลา…” เพราะปลายแหลมด้านใต้สุด ของเกาะภูเก็ตนี้คือจุดสุดท้ายของประเทศไทยที่ดวงอาทิตย์จะลับฟ้าไปในแต่ละวัน โดยทิ้งแสงสีมลังเมลืองเคลือบฟ้าไว้ งดงามไม่น้อยไปกว่าภาพดวงอาทิตย์แดงก่ำกลมโตที่ค่อยๆ เคลื่อนหายไปใต้แนวเส้นตรงที่คั่นระหว่างท้องฟ้าและผืนทะเล

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฟ้าใส ไร้เมฆฝน จะมองเห็นดวงตะวันกลมโต ค่อยๆ จมดิ่งลับขอบฟ้าได้กระจ่างตาที่สุด



  • อร่อยไม่เหมือนใคร ใน ‘ภูเก็ต’

    อร่อยไม่เหมือนใคร ในภูเก็ต

     อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต

    นอกจากทะเลสวยใสเลื่องชื่อระดับโลก และกิจกรรม ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์แล้ว ภูเก็ตยังขึ้นชื่อลือชาในเรื่องอาหารการกินอันมีเอกลักษณ์ นอกเหนือจากอาหารรสชาติจัดจ้านตามแบบภาคใต้ เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบ แกงไตปลา ขนมจีนน้ำยากินกับห่อหมก และสารพัดผักเหนาะแล้ว ยังมีอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนจีนในเมืองภูเก็ต เช่น โลบะ โอวต๊าว โอ๊ะเอ๋ว ขนมอาโป๊ง หมี่ฮกเกี้ยน หมี่หุ้นบะกูด บะกุ๊ดเต๋ ฯลฯ ขายอยู่ในย่านถนนเยาวราช ซึ่งเรียงรายด้วย

     บ้านโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส และอีกย่านหนึ่งคือ ซอยหล่อโรง ห่างจากศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยราวๆ 200 เมตร เป็นย่านของกินอร่อยเด็ด ที่มาถึงภูเก็ตแล้วไม่ควรพลาด

     ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: อิ่มอร่อยได้ทั้งปีที่ภูเก็ต



  • เดินช้าชมเมือง‘ตึกชิโน-โปรตุกีส’

    ตึกชิโน-โปรตุกีส จ.ภูเก็ต

     อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต

    ภูเก็ตเป็นเมืองร่ำรวยทั้งในด้านเศรษฐกิจและวิถีวัฒนธรรม ด้วยความที่เป็นเมืองเก่าแก่ มีเรื่องราวความเป็นมายาวนาน โดยเฉพาะในฐานะเมืองท่าค้าขายและเมืองเหมืองแร่ ซึ่งสิ่ง ที่ตกทอดเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงความเฟื่องฟูในวันเก่าก่อน คืออาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ฝีมือ ประณีตที่ผสมผสานความเป็นตะวันออกเข้ากับตะวันตกอย่าง ลงตัว อาคารสไตล์ชิโน-โปรตุกีสในเมืองภูเก็ตมีทั้งที่เป็นตึกแถว หรือ ‘เตี้ยมฉู่’ โดดเด่นตรงช่องซุ้มโค้งที่สร้างคลุมแดดคลุมฝน เหนือทางเดินเท้าหน้าตึก และคฤหาสน์ หรือ ‘อั่งม้อหลาว’ บ้านหลังใหญ่ที่มีลวดลายปูนปั้นประดับประดางดงาม

    ซึ่งทุกวันนี้ ตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกีสยังมีให้เห็นอยู่ทั่วเมืองภูเก็ต แต่จะมีมากเป็นพิเศษในย่านถนนดีบุก ถนนกระบี่ ถนนถลาง และถนนเยาวราช

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เที่ยวชมเมืองภูเก็ตได้ตลอดปี แต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ท้องฟ้าจะแจ่มใส ไร้ฝน เดินเที่ยวได้สะดวกสบาย



  • ใช้ชีวิตเรียบง่าย บน ‘เกาะยาวน้อย’

     อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา

    เกาะยาวน้อย จ.พังงา

     เกาะยาวน้อยที่ทอดตัวเป็นแนวยาวอยู่กลางทะเลอันดามัน โดยมีโค้งแผ่นดินของจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่

    โอบรับไว้ถึงสามด้าน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของพังงา ไม่ใช่เพราะถูกรายล้อมด้วยทะเลสวย ทว่าเป็นเพราะบนเกาะสงบงามอันเป็นถิ่นฐานของชาวมุสลิมมายาวนานกว่าร้อยปีนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งได้รับรางวัลจาก ททท. และหน่วยงานอื่นๆ มาแล้วมากมาย

     สิ่งที่น่าชื่นชมคือการร่วมมือร่วมใจของชาวเกาะยาว ที่รวมตัวกันวางระบบจัดการการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ ซึ่งได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับกันในระดับประเทศ นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้พักอย่างอบอุ่น ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สบายๆ แล้ว ยังได้เลือกออกไปเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะยาว ไม่ว่าจะเป็นการทำนา ทำสวนยาง ออกเรือไปดูการวางอวน กู้อวน ฯลฯ อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

     ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนพฤศจิกายน-เมษายน เป็นช่วงเวลาเหมาะที่สุดสำหรับการไปพักแบบโฮมสเตย์บนเกาะยาวน้อย



  • ‘อาบน้ำแร่ แช่น้ำอุ่น’ ณ ระนอง

    ‘อาบน้ำแร่ แช่น้ำอุ่น’ ณ ระนอง

    สวนรุกขชาติรักษะวาริน อำเภอเมืองฯ จังหวัดระนอง

    เพราะระนองตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีแหล่งความร้อนใต้พิภพ จึงไม่น่าแปลกใจที่จังหวัดซึ่งได้รับสมญานาม
    ว่า ‘เมืองฝนแปด แดดสี่’ แห่งนี้จะโด่งดังในฐานะดินแดนแห่งน้ำแร่มานานนับร้อยปี ยิ่งไปกว่านั้น
    น้ำแร่ร้อนในระนองยังมีคุณภาพดี ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกอีกด้วย

    แหล่งน้ำแร่ร้อนตามธรรมชาติมีอยู่มากมายหลายแห่งได้รับการปรับแต่งภูมิทัศน์ให้สะดวก
    ต่อการแช่ขาแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า โดยบ่อน้ำร้อนที่อยู่คู่ระนองมายาวนานนั้นอยู่ใน
    บริเวณสวนรุกขชาติรักษะวาริน หรือที่ชาวเมือง เรียกว่า ‘บ่อน้ำร้อนวัดตโปทาราม’ ซึ่งมี 3 บ่อ
    คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว อุณหภูมิ 63-69 องศาเซลเซียส

    ความพิเศษที่สุดของบ่อน้ำร้อนในระนองคือ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำร้อนแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีกำมะถัน
    เจือปนอยู่เลย นั่นเป็นคำตอบว่า ทำไมเมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณบ่อน้ำร้อนแห่งนี้จึงไม่มีกลิ่นก๊าซอบอวล
    เหมือนแหล่งน้ำร้อนในจังหวัดอื่น

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ระนองได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
    จึงมีฝนตกเกือบทั้งปี ช่วงที่ปลอดฝนคือกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม