หมวดหมู่: ท่องเที่ยวไทย

  • กาลครั้งหนึ่ง….ฉะเชิงเทรา

    01

    “ฉะเชิงเทรา” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เมืองแปดริ้ว”  อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ด้านธรรมชาติ ประเพณีและวิถีชีวิตความอยู่ของผู้คน ที่ยังคงสืบทอดความงดงามและคุณค่าของอดีตส่งต่อมาถึงปัจจุบัน (เพิ่มเติม…)

  • สุราษฎร์ธานี…เสน่ห์เมืองร้อยเกาะ

    1

    สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของภาคโต้ เพราะมีธรรมชาติอันสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ มีหมู่เกาะต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน หมู่เกาะอ่างทอง และสมุย จนได้ชื่อว่า เป็น “เมืองร้อยเกาะ” ทั้งยังมีพื้นที่ป่าดิบชื้นที่อุดมด้วยพืชพรรณอันหลากหลาย สายน้ำมากมาย และสัตว์ป่านานาชนิด นอกจากนั้นสุราษฎร์ธานียังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การคมนาคมก็สะดวกสบาย สามารถไปได้ทั้งทางรถ รถไฟ เรือ รวมถึงเครื่องบิน จึงทำให้เมืองนี้กลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญทางชายฝั่งทะเลอ่าวไทยที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติไปเยี่ยมเยือนกันมากมาย

    2

              “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “หมู่เกาะอ่างทอง” คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญอีกแห่งหนึ่ง สำหรับนักเดินทางที่ชอบทะเลและรักการชมความงามใต้ผืนน้ำ อุทยานฯ ทางทะเลแห่งนี้ประกอบด้วยเกาะต่างๆ กว่า 40 เกาะ อาทิ เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ เกาะนายพุดและเกาะท้ายเพลา ฯลฯ สภาพเกาะส่วนมากมีลักษณะเป็นเขาหินปูนสูงชัน โดยไฮไลต์ของการมาเที่ยวชมหมู่เกาะอ่างทอง ก็คือการขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาของเกาะวัวตาหลับ ซึ่งสามารถชมทัศนียภาพของหมู่เกาะบริเวณใกล้เคียงได้แบบ 360 องศา และการไปชมความงามของทะเลสีเขียวมรกตที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาที่ ทะเลใน  ซึ่งอยู่ในบริเวณเกาะแม่เกาะ แล้วรับรองว่าคุณจะตกหลุมรักหมู่เกาะแห่งนี้ไปอีกนาน

    3

    4

              “เกาะเต่า” อีกหนึ่งจุดหมายที่นักเดินทางต่างให้การยกย่องว่าเป็นดั่งอัญมณีเม็ดงามของสุราษฎร์ธานี และขึ้นชื่อว่าเป็นจุดดำน้ำที่ดีและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อุดมสมบูรณ์ด้วยแนวปะการัง ฝูงปลา และสัตว์น้ำนานาชนิด ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการดำน้ำลึกหรือดำน้ำตื้น ก็สามารถสัมผัสกับความงามของโลกใต้ทะเลได้เหมือนกัน ไม่เพียงเท่านั้น เกาะเต่ายังมีชายหาดที่มีความสวยงาม ทรายขาวละเอียด สลับกับโขดหินรูปทรงแปลกตา

    5

    บริเวณด้านทิศเหนือของเกาะเต่า ยังเป็นที่ตั้งของเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กัน คือ “เกาะนางยวน” ซึ่งหลายคนบอกเปรียบว่าเป็นเสมือน ‘หางเต่า’ ด้วยขนาดที่เล็ก และอยู่บริเวณท้ายเกาะ นางยวนประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 3 เกาะ ที่ถูกเชื่อมเข้าหากันด้วยสันทรายสีขาว ทำให้มีลักษณะคล้ายหาดส่วนตัวถึง 3 อ่าว เหมาะกับการเล่นน้ำ ดำน้ำตื้น ชมฝูงปลาและปะการัง ที่นี่ยังมีจุดชมวิวที่สวยงาม และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนหาดเดียวกัน

    6

    ส่งท้ายการเที่ยว ด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศจากทะเล ไปล่องเรือเที่ยวเขื่อน หรือเดินป่าเที่ยวเขากันบ้างดีกว่า “อุทยานแห่งชาติเขาสก”ครอบคลุมผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญของภาคใต้ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง อุดมไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ทั้งที่หายากและเป็นพืชหรือสัตว์เฉพาะถิ่น  ไม่เพียงเท่านั้น  ภายในบริเวณอุทยานฯ ยังเป็นที่ตั้งของ “เขื่อนรัชชประภา” หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน  สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเขาสก ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ของผืนน้ำสีเขียวมรกตรายล้อมด้วยภูเขาหินปูนที่สูงชัน คล้ายกับเมืองกุ้ยหลินของจีน อันเป็นที่มาของสมญานาม “กุ้ยหลินเมืองไทย”

    สุราษฎร์ธานียังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งเชิงศิลปวัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณีไปจนถึงอาหารการกิน ที่เชื่อแน่ว่า หากคุณได้ลองมาสัมผัสสุราษฎร์ธานีสักครั้ง คุณจะต้องหลงเสน่ห์เมืองร้อยเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอน…

     

     

  • ท่องเที่ยวเกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์

    เกาะทะลุ

    สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังชั้นดีใกล้ๆกรุงเทพ ที่ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง เกาะทะลุเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขต ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากชาย ฝั่งบริเวณปากคลองบางสะพานน้อยราว 7 กม. หากเดินทางโดยใช้เรือ ใช้เวลาเดินทางเพียง 30-40 นาที มีเนื้อที่ ประมาณ 1,500 ไร่

          

    ลักษณะสัณฐานคล้ายรูปปลาวาฬตัวมหึมา หันด้านหน้าชายหาดเข้าหาฝั่งแผ่นดิน ด้านหลังเป็นหน้าผาสูงแนวสันเขาทอดยาวจากทิศเหนือจรดใต้ ด้านทิศตะวันออกของ เกาะทะลุ มีสุสานปะการังที่ถูกน้ำทะเลพัดมาทับถมจนเต็มหาด ส่วน หัวเกาะด้านทิศเหนือเป็นหน้าผาหินและมีช่องหินขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติของลมและน้ำทะเล ที่กัดเซาะจนสามารถมองเห็นทะเลอีกด้านหนึ่ง อันเป็นที่มาของชื่อ เกาะทะลุนั่นเอง

     

    บริเวณรอบเกาะทะลุอุดมไปด้วยปะการังน้ำตื้นสีสวย เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังดอกไม้ หาดทรายขาวสะอาด เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว นิยมดำน้ำชมปะการัง กัลปังหา ฝูงปลาสวยงาม ที่สร้างสีสัน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาชื่นชมความสวยงามของโลก ใต้ท้องทะเลอ่าวไทย ฝูงปลานานาชนิดแหวกว่ายอยู่ในแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ ทัศนียภาพบนเกาะที่ ยังคงรักษาสภาพความเป็นธรรมชาติ ที่รายล้อมไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี ทิวทัศน์อันสวยงามของหาดทรายนวล ทางด้านทิศตะวันตกที่มีฉากหลังเป็นหน้าผาสูงชันที่มีช่องทะลุขนาดใหญ่ น้ำทะเลใสจากชายหาดขาวสะอาดที่ขับเป็นสีทองยามกระทบแสงอาทิตย์อัสดงที่กำลัง จะลับขอบเขาตะนาวศรี


    เกาะทะลุกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เชิญชวนให้คนที่รักในการดำน้ำ ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติสวยงามและที่สำคัญคือ ราคาค่าบริการดำน้ำดูปะการัง ถูกมากเมื่อเทียบกับแหล่งดำน้ำอื่นๆ ของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเกาะทะลุหรือที่บางท่านเรียกว่าเขาทะลุได้รับความ สนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย รวมทั้งในโลกออนไลน์ อีกทั้งยังหาที่พักที่หัวหินซึ่งอยู่ไม่ไกลพักผ่อนได้อีกด้วย และหากท่านอยู่ริมทะเลในอ่าวบางสะพานและบางสะพานน้อย ไม่ว่าช่วงไหน คือตั้งแต่อ่าวแม่รำพึงจนถึงหาดบางเบิด จะมองเห็นเกาะทะลุ มาที่เกาะทะลุแห่งนี้แล้วจะรู้ว่าฝั่งทะเลอ่าวไทยก็สวยงามไม่แพ้อันดามันเหมือนกันน่ะ

    เกาะทะลุกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เชิญชวนให้คนที่รักในการดำน้ำ ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติสวยงามและที่สำคัญคือ ราคาค่าบริการดำน้ำดูปะการัง ถูกมากเมื่อเทียบกับแหล่งดำน้ำอื่นๆ ของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเกาะทะลุหรือที่บางท่านเรียกว่าเขาทะลุได้รับความ สนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย รวมทั้งในโลกออนไลน์ อีกทั้งยังหาที่พักที่หัวหินซึ่งอยู่ไม่ไกลพักผ่อนได้อีกด้วย และหากท่านอยู่ริมทะเลในอ่าวบางสะพานและบางสะพานน้อย ไม่ว่าช่วงไหน คือตั้งแต่อ่าวแม่รำพึงจนถึงหาดบางเบิด จะมองเห็นเกาะทะลุ มาที่เกาะทะลุแห่งนี้แล้วจะรู้ว่าฝั่งทะเลอ่าวไทยก็สวยงามไม่แพ้อันดามันเหมือนกันน่ะ

     

     


  • เปราะภูในสายหมอก ที่แปกดำ ภูหลวง จ.เลย

    มนต์ขลังของฤดูฝนบนภูหลวงนั้น คือ
    สายหมอกฉ่ำเย็น นี่เป็นเวลาของดอกเปราะภู
    สีชมพู ซึ่งจะพากันบานสะพรั่งทั้งผืนป่า

    ล่วงถึงต้นฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน บนภูหลวง จังหวัดเลย นั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของดอกไม้ต้นฤดูฝน ซึ่งพากันผลิดอกสวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน เช่น โคกนกกระบาและลานสุริยัน แต่ไกลออกไปในป่าสนบริเวณที่เรียกว่า “แปกดำ” เดินเท้าถึงได้ในเวลาชั่วโมงเศษๆ ที่นั่นดอกเปราะภูสีชมพู (Caulokaempferia violacea) สวยสดกำลังพากันออกดอกสะพรั่งทั้งผืนป่า มีเวลาสวยที่สุดอยู่แค่เดือนเดียว พลาดปีนี้ ต้องรอปีหน้าถึงจะมีใหม่โอกาสอีกครั้ง

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เวลาที่มีหมอกลงส่วนมากเป็นช่วงเช้า
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด  : กลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกรกฎาคม
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ป่าสนบริเวณที่เรียกว่า “แปกดำ” 


    เส้นทางการเดินทาง
    จาก จ.เลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 สู่ อ.ภูเรือก่อนถึงบริเวณบ้านสานตมมีทางแยก
    ซ้ายเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงด้านโคกนกกระบาระยะทางราว 28 กิโลเมตร

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเลย โทร. 042 812 812


  • เที่ยวชมผืนพรมทะเลหญ้าเขียวขจีสวยที่สุดในเมืองไทย

     เที่ยวชมผืนพรมทะเลหญ้าเขียวขจีสวยที่สุดในเมืองไทย
    ทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์

    ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และสวยที่สุดในเมืองไทย
    ต้องไปดูที่หน่วยพิทักษ์ป่าหนองแม่นา ในเขตอุทยาน
    แห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์
    ต้นฤดูฝนที่นี่ หญ้าทั้งทุ่งกลายเป็น
    ผืนพรมเขียวมรกตได้เหลือเชื่อ

     ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าสะวันนาที่สวยงามที่สุด เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน โดยจะเขียวขจีประดุจผืนพรมธรรมชาติ เป็นฤดูกาลแห่งสรรพชีวิตโดยเฉพาะดอกกระเจียวขาว (Curcuma parviflora) นับหมื่นดอกจะแทงช่อขึ้นรับกับหยาดฝน นอกจากนั้นทุ่งนางพญาก็เป็นเส้นทางขี่จักรยานที่มีสภาพธรรมชาติดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย อยู่ไม่ไกลทุ่งแสลงหลวงและในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ในลำน้ำเข็กยังมีแมงกะพรุนน้ำจืดให้ชมอีกด้วย

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาเช้าราว 07.00 น.
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ฤดูฝนเดือนมิถุนายนของทุกปี
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: จุดชมวิวเส้นทางเข้าทุ่งนางพญาและบริเวณรอบที่พัก

     

    เส้นทางการเดินทาง
    จาก จ.เพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 ถึงแยกไร่บีเอ็น เลี้ยวขวาทางหลวงหมายเลข 2196 และ 2325 ไปยังบ้านหนองแม่นา ที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่าหนองแม่นา จ.เพชรบูรณ์

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก
    โทร. 055 252 742-3, 055 259 907