หมวดหมู่: ท่องเที่ยวไทย

  • สุดยอดมุมมอง ชมพระอาทิตย์ตกได้จากในถ้ำ

    มุมมองพระอาทิตย์ตกจากในถ้ำ
    ก็สวยได้ไม่เหมือนใคร
    และต้องไปพิสูจน์คือพระอาทิตย์ตกที่ถ้ำพระนาง

    มุมอัศจรรย์มุมนี้ต้องเดินลึกเข้าไปจนสุดชายหาด อันเป็นที่ตั้งของถ้ำพระนาง ด้วยเป็นที่สถิตของพระนางอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ มุมมองนี้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด คือเมื่อเข้าไปอยู่ภายในถ้ำมองออกมาจะเห็นปากโพรงถ้ำมีหินย้อยลงมาเป็นฉากระย้าสวยงาม มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายในยามพระอาทิตย์ตกจะเป็นมุมมองสวยงาม แปลกตา น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย

     

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงพระอาทิตย์ตก คือประมาณ 18.00 น.
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ฤดูร้อนราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ด้านในของถ้ำพระนาง

    เส้นทางการเดินทาง จากตัวจังหวัดกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4202 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4201 และ 4203 ถึงอ่าวพระนาง แล้วลงเรือที่อ่าวพระนางไปหาดถ้ำพระนางและถ้ำพระนาง

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานกระบี่ โทร. 075 622 163 


  • อลังการมรดกโลก เมืองเก่าอยุธยายามราตรี

    อยุธยาเมืองมรดกโลก
    ยามเมื่อแสงแห่งวันสิ้นไป
    โบราณสถานซึ่งประดับด้วยแสงไฟ
    คือความงามล้ำลึกเรืองรอง 

    อยุธยา ราชธานีในประวัติศาสตร์ชาติไทยยาวนานถึง 417 ปี มรดกโลกแห่งนี้อลังการด้วยโบราณสถานอันทรงคุณค่างดงามผสมผสานด้วยวิถีชีวิตผู้คนกับความเป็นเมืองประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ทุกวันเมื่อแสงสุดท้ายแห่งเวลาสิ้นลง แสงไฟประดับประดา ตามโบราณสถานต่างๆ จะค่อยๆ เจิดจรัสราวกับเนรมิตให้ราชธานีศรีอยุธยาเรืองรองขึ้นมาอีกครั้งเหมือนอดีตอันรุ่งโรจน์

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือโพล้เพล้ใกล้ค่ำ
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: วัดพระศรีสรรเพชญ์

    เส้นทางการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 32 ถึง จ.พระนครศรีอยุธยา แยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 309 ข้ามแม่น้ำป่าสัก สู่ตัวเมืองเก่าเขตโบราณสถาน สำหรับวัดไชยวัฒนาราม อยู่นอกเกาะเมืองด้านตะวันตก

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
    โทร. 035 246 076-7 


  • พายเรือลอดถ้ำ ข้ามสองอำเภอ ที่ถ้ำเจ็ดคต

    ถ้ำขนาดใหญ่ แหล่งผจญภัยด้วยการพายเรือ
    ลอดถ้ำที่โค้งถึง เจ็ดโค้ง เจ็ดคต งดงามด้วย
    หินงอกหินย้อยและหาดทราย
    กลายเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของเมืองสตูล

    สตูล จังหวัดใต้สุดด้านทะเลอันดามัน ที่รู้จักกันดีคือหมู่เกาะตะรุเตา แต่ที่อำเภอละงู และกิ่งอำเภอมะนัง มีถ้ำใหญ่ น้ำลอดได้อยู่แห่งหนึ่งคือ ถ้ำเจ็ดคต ปากถ้ำอยู่กิ่ง อำเภอมะนัง ส่วนหลังถ้ำอยู่ที่อำเภอละงู ภายในมีน้ำไหลลอดคดโค้ง ท้าทายให้ นักผจญภัยพายเรือลอดถ้ำ และชมความสวยงามของ หินงอก หินย้อย ถ้าใครพายลอดไปได้ ก็ต้องถือว่าสุดยอด เพราะพายเรือลอดถ้ำข้ามมาตั้ง 2 อำเภอ

     ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลา 11.00 – 12.00 น.
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด: เดือนธันวาคม
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ปากถ้ำทั้งสองด้าน

    เส้นทางการเดินทาง จาก จ.สตูล ใช้ทางหลวงหมายเลข 406 และ 416 มุ่งหน้าสู่ อ.ละงู แล้วแยกขวาไปน้ำตกวังสายทองและถ้ำภูผาเพชร ก่อนถึงถ้ำภูผาเพชร มีทางแยกซ้ายไปถ้ำเจ็ดคต รวมระยะทางราว 70 กิโลเมตร

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานตรัง  โทร. 075 211 085

     


  • ท่องป่าปิดชมเมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่ภูกระดึง

    เมเปิ้ลเปลี่ยนสี
    อาจมีอยู่หลายแห่งในเมืองไทย
    แต่จะหาที่ไหนสวยงาม
    ไปกว่าเมเปิ้ลในป่าปิดของภูกระดึงนั้นไม่มี

    อาณาเขตป่าปิดด้านทิศเหนือบนภูกระดึง นอกจากเป็นเขตป่าอนุรักษ์แล้ว ยังเป็นที่รวมของลำธารเล็กๆ หลายสายซึ่งไหลผ่านผืนป่าแห่งนี้ ก่อเกิดเป็นน้ำตกน้อยใหญ่สวยงามหลายแห่ง และริมลำธารเหล่าเป็นถิ่นของต้นเมเปิ้ล ที่ทุกฤดูหนาวจะพากันเปลี่ยนสีใบเป็นสีแดงสด บ้างก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน เป็นภาพที่งดงามที่สุด โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลที่อยู่หน้าน้ำตกขุนพอง ซึ่งต้องขออนุญาตก่อนเข้าไปเที่ยวชม

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาเช้าราว 08.00 – 10.00 น.
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด: เดือนธันวาคม
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: บริเวณน้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกผาน้ำผ่า น้ำตกขุนพอง

    เส้นทางการเดินทาง จาก จ.เลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่าน อ.วังสะพุง ถึงอ.ภูกระดึง แยกขวาเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเดินเท้าขึ้นภูใช้เวลาราว 3-4 ชั่วโมง ควรมีเวลา 1 วัน ในการเที่ยวป่าปิด

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานเลย โทร. 042 812 812


  • สามพันโบก มหัศจรรย์แห่งภูผาใต้มหานทีแม่โขง

    ทุกฤดูแล้งเมื่อแม่น้ำโขงลดระดับลง
    “โบก” นับร้อย นับพัน ที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำ
    ก็ผุดโผล่ขึ้นกลายมาเป็นประติมากรรมหินผา
    น่าพิศวงที่เรียกว่า “สามพันโบก”

    ภูผาหินใต้น้ำเหล่านี้จะจมอยู่ใต้กระแสอันเชี่ยวกรากของแม่น้ำโขง มาตลอดช่วงเวลาฤดูฝน และเปลี่ยนแปรรูปลักษณ์ของมันไปในทุกวินาทีที่พลังของสายน้ำทำงานไม่เคยหยุด กลายเป็นหลุมกุมภลักษณ์หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “ โบก” ขนาดต่างๆ กัน ราวกับมหัศจรรย์นครแห่งหินผาใต้บาดาล อีกทั้งหน้าผาใต้น้ำที่กว้างใหญ่เกินกว่าใครจะจินตนาการได้ ที่สำคัญหากมาเที่ยวชมในเดือนเมษายน จะได้พบ “แมงกะพรุนน้ำจืด” โผล่ขึ้นมาตามโบกเหล่านี้ให้เห็นอีกด้วย

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเช้าก่อน 08.00 น. ชมแมงกะพรุน  เย็นชมพระอาทิตย์ตก
    ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน
    จุดชมวิวที่ดีที่สุด: กลุ่มโบกริมน้ำโขง ผาแคนยอนและหลุมแมงกะพรุน

    เส้นทางการเดินทาง จาก จ.อุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2050 ผ่าน อ.ตระการพืชผล ถึงบ้านห้วยยาง แยกขวามือทางหลวงหมายเลข 2337 ถึงหาดสลึง เลี้ยวขวาทางหลวงหมายเลข 2112 อีกราว 7 กิโลเมตรถึง สามพันโบก

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อที่ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี
    โทร. 045 243 770, 045 250 714