ป้ายกำกับ: ท่องเที่ยวพัทลุง

  • ตามหา ‘โลมาอิรวดี’ ในทะเลสาบลำปำ

    โลมาอิรวดี ในทะเลสาบลำปำ

     

    อำเภอเมืองฯ จังหวัดพัทลุง

    นอกจากทะเลน้อยซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติอันน่าทึ่งแล้ว พัทลุงยังมีสิ่งมีชีวิตหายาก ที่พบเพียง 5 แห่งในโลก* อาศัย อยู่ในทะเลสาบลำปำ อันเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลสาบ สงขลาอีกด้วย สิ่งมีชีวิตแสนพิเศษนั้นคือโลมาอิรวดี ที่คน เมืองลุงเรียกกันว่า ‘หัวหมอน’ สัตว์เลือดอุ่นที่มีลำตัวสีเทา อมฟ้า หรือบางตัวก็มีสีดำอมเทา ด้วยหน้าตาน่าเอ็นดูและ ลีลาการกระโดดน้ำ ทำให้หลายคนอยากชมความน่ารักด้วย สายตาตัวเอง แม้ว่าจำนวนโลมาอิรวดีในทะเลสาบลำปำ จะลดลงเหลือเพียง 25-30 ตัว แต่นักท่องเที่ยวก็มีโอกาส เห็นเจ้าหัวหมอน หากออกเรือล่องไปในทะเลสาบลำปำ เวลา 07:00-08:00 น. เพราะโลมาอิรวดีมักกระโดดเล่นน้ำ ในช่วงเวลานี้

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ปลอดฝน เหมาะกับการล่องเรือออกตามหาโลมาอิรวดี 

    *พื้นที่ธรรมชาติ 5 แห่งในโลกที่พบโลมาอิรวดี คือ แม่น้ำอิรวดี พม่า, แม่น้ำโขง ลาว-กัมพูชา, ทะเลสาบซิลิกา อินเดีย, แม่น้ำมะหะขาม อินโดนีเซีย และทะเลสาบสงขลา ไทย

  • ‘นกน้ำ’และ‘บัวบาน’ ละลานทะเลน้อย

    ทะเลน้อย จ.พัทลุง

    เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

    หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในจังหวัดเล็กๆ ซึ่งมีเขาอกทะลุเป็นสัญลักษณ์ เป็นสถานที่เก็บงำของดีระดับชาติไว้ได้อย่างน่าชื่นชม ที่นั่นคือทะเลน้อย ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลา มี ‘พรุควนขี้เสียน’ พื้นที่ชุ่มน้ำเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ และพรุผืนนี้เองที่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ(Ramsar Site) แห่งแรกของประเทศไทย

    ทะเลน้อยอุดมสมบูรณ์ด้วยสรรพชีวิต ทั้งเหนือน้ำ ใต้น้ำ และรายรอบผืนน้ำ การไปเยือนทะเลน้อยควรไปแต่เช้าเพื่อลงเรือตระเวนดูดอกบัวหลากหลายชนิดที่พากันเบ่งบานอวดความงดงามรับวันใหม่ ซึ่งระหว่างทางจะได้เห็นนกน้ำมากมาย หรือถ้าไม่อยากลงเรือ การได้เดินชมธรรมชาติไปตามสะพานไม้รอบที่ทำการฯ ก็มีนกน้ำ เช่น นกอีโก้ง นกพริก ฯลฯ และพรรณไม้น่าสนใจ อย่างกระจูด บัวสาย จอกหูหนู ฯลฯ ให้ดูเพลินไปตลอดทาง

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อากาศดี ฟ้าสดใส ดอกบัวหลากหลายสายพันธุ์เบ่งบานงดงามถ้าอยากดูนกอพยพต้องไปในช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม

     

     

  • ตี ‘9 โพนมงคล’ ในเมืองเขาอกทะลุ

    อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

    ตี 9 โพนมงคล ที่จังหวัดพัทลุง

    แม้จะเป็นจังหวัดขนาดเล็ก แต่พัทลุงก็กึกก้องโด่งดังด้วยเสียง ‘โพน’ ซึ่งเป็นชื่อเรียกของกลองที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนเมืองลุงมายาวนานกว่าร้อยปี จากเดิมที่มีการตีโพนเพื่อเป็นสัญญาณบอกเวลาฉันเพล หรือตีบอกเหตุร้ายในยามค่ำคืน หรือตีเพื่อเรียกชาวบ้านมาประชุม

    ปัจจุบันนี้การตีโพนได้เพิ่มความหมายไปอีกนัยหนึ่ง คือเป็นเสียงที่บ่งบอกถึงการมาเยือนเมืองลุง หรือ ‘เมืองเขาอกทะลุ’ ของนักท่องเที่ยวจากแดนไกล มาถึงพัทลุงต้องตีโพน ให้ครบ 9 จุด คือ

    ‘โพนก้องฟ้า’ ในวัดอินทราวาส
    ‘โพนพสุธาสนั่น’ ที่สวนกาญจนาภิเษก
    ‘โพนขวัญเมือง’ ที่ศาลาจัตรมุข พระพุทธนิรโรคันตราย ชัยวัตรจตุรทิศ
    ‘โพนเรืองเดชา’ ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
    ‘โพนมหามงคล’ ที่สำนักวิปัสสนาวังสันติบรรพต
    ‘โพนมนต์เทวัญ’ ที่ศูนย์ภูมิปัญญาผู้สูงอายุ
    ‘โพนอนันตชัย’ ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ‘
    โพนพิชิตไพรี’ ที่ถ้ำมาลัยเทพนิมิตร และ
    ‘โพนศรีไพศาล’ ที่หาดแสนสุขลำปำ

    จะได้บอกใครๆ ได้เต็มปากว่า ได้สัมผัสเมืองแห่งโพน และโพนแห่งเมืองมาแล้วอย่างแท้จริง

     

     

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ลงไม้ลงมือตีโพนได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าไปในช่วงวันออกพรรษา ซึ่งมีการจัดงานแข่งขันโพนประจำปี จะได้ฟังเสียงโพนกึกก้องไปทั้งเมือง

    ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    รวมรวมบทความท่องเที่ยว โดย www.unseentourthailand.com  เว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย