หมวดหมู่: ท่องเที่ยวไทย

  • เทศกาลดนตรี Stress Free Music Festival @เชียงราย

    สุดประทับใจเทศกาลแห่งความผ่อนคลาย Stress Free Music Festival @ ChiangRai 3-4 มีนาคม 2560 จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานเทศกาลดนตรีรูปแบบใหม่ Stress Free Music Festival@เชียงราย ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางหลังแรก) จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป (เข้าชมฟรี)

    ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย ชิมอาหารถิ่นล้านนา โดยเชฟชื่อดัง ชมงานศิลปะ นวดไทย สปา ฯลฯ



    “เทศกาลดนตรีแห่งความผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับศิลปะ สปาภูมิปัญญา และอาหารถิ่นเลิศรส

    พบกับศิลปินชื่อดัง ที่จะมาถ่ายทอดบทเพลงอันไพเราะ อาทิ เจนนิเฟอร์ คิ้ม & โก้ Mr. Saxman, ตู่ นันทิดา,  บี พีระพัฒน์, ลานนา คัมมินส์, มาเรียม, ไข่มุก The Voice และศิลปินอีกมากมาย

    นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านการสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า

    งาน Stress Free Music Festival@เชียงราย เทศกาลดนตรีเพื่อความผ่อนคลายครั้งนี้ เป็นงานที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกิจกรรมทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆให้แก่จังหวัดเชียงราย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดเชียงราย ในฐานะเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย ตลอดจนส่งเสริม และกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ จังหวัดเชียงรายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

    ชมการแสดงชุด “เบิกฟ้าเชียงราย น้อมใจไหว้สา”

    พบกับ “ของดีประจำภาคเหนือและประจำจังหวัดเชียงราย” ที่รวมไว้ภายในงานเดียว

    พร้อมนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ในจังหวัดเชียงราย ทั้งด้านการตกแต่งสถานที่ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น

    มีโซนกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ที่ทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายอย่างแท้จริง อาทิ

    “ฟรีคอนเสิร์ต”
    ฟังเพลงสบายๆ ผ่อนคลาย ไปกับศิลปินชื่อดัง นำทีมโดย เจนนิเฟอร์ คิ้ม, โก้ Mr. Saxman  ตู่ นันทิดา, บี พีระพัฒน์, ลานนา คัมมินส์, มาเรียม, ไข่มุก The Voice และศิลปินอีกมากมาย



    “สปาและนวดไทย”
    อย่างเต็มรูปแบบ จากแบรนด์ Organika House ของ คุณศรีริต้า-เจนเซ่น

    “นิทรรศการงานศิลปะ”
    จากขัวศิลปะ (Art Bridge Chiang Rai)

    การแสดงท้องถิ่น “ฟ้อนขันดอก” และ “เชียงรายรำลึก”

    “ซุ้มดูดวง”
    จากหมอดูประจำท้องถิ่น จังหวัดเชียงราย

    “ซุ้มผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์”
    และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นประจำจังหวัดเชียงราย จาก ไร่รื่นรมย์ อ.เทิง จ.เชียงราย

    “ร้านอาหารท้องถิ่นชื่อดัง”
    โดยเชฟชื่อดัง มากความสามารถ อย่าง เชฟอิ๊ก-บรรณ บริบูรณ์ และ เชฟปิง-สุรกิจ เข็มแก้ว ที่จะมารังสรรค์ เมนูอาหารภาคเหนือแท้ๆ ให้ได้ชิมลิ้มรสกัน

    เป็นเทศกาลที่มอบประสบการณ์ อันน่าประทับใจ จากท้องถิ่นไทย (Unique Thai Local Experience) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ

    ได้เห็นถึงความงดงาม น่าสัมผัส ของวิถีชีวิตคนไทย ตลอดจนธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ มีหลายแง่มุมให้ค้นหา และเปิดประสบการณ์ชีวิตที่เหลือเชื่อ กับ Amazing Local Experience

    ผ่านกิจกรรมที่ท้าทาย สนุกสนาน และแตกต่าง เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ในแบบ Talk of the World ที่คุณไม่ควรพลาด!

    ในงาน “Stress Free Music Festival@เชียงราย” ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางหลังแรก) จังหวัดเชียงราย วันที่ 3-4 มีนาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป (เข้าชมฟรี)

    สอบถามเพิ่มเติม :
    ฝ่ายประชาสัมพันธ์งาน
    Stress Free Music Festival@เชียงราย
    โทร. 086-757-3131, 093-536-9897
    http://thaifest.tourismthailand.org/
    www.facebook.com/ThailandFestival/

    #stressfreemusicfestival  #thailandfestival  #TATmusicfestival  #เทศกาลดนตรีเพื่อความผ่อนคลาย  #AmazingThailand  #ThailandFestivalExperience

  • ตะลุยล้านนา กับ Fortuner Trip Series @เชียงใหม่

     “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” จัดกิจกรรม Fortuner Trip Series พาลูกค้า Fortuner เที่ยว เส้นทางที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา

    กิจกรรม Fortuner Trip Series จัดขึ้นในคอนเซ็ป “The Tale of Mystic Lanna” มนต์เสน่ห์ในการเดินทาง เพื่อสัมผัสตำนานล้านนาที่เลือนหายไป ณ หอคำหลวง ตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 บนดอยอินทนนท์ ทดสอบสมรรถนะรถยนต์ Fortuner ที่ “โลหะปราสาททิพยวิมาน” โลหะปราสาททรงล้านนา หลังแรกของโลก

    โดยพาผู้ร่วมทริป เดินทางตะลุยล้านนา ด้วย Fortuner ระยะทางกว่า 260 กิโลเมตร ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่

    • วัดต้นเกว๋น
    • พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ
    • สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
    • ปาร์ตี้ล้านนา ที่ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์
    • วัดพระธาตุศรีเมืองปง (ตักบาตรดอกไม้)
    • โลหะปราสาททิพยวิมาน
    • ที่พักสุดพิเศษ โรงแรม Flora Creek Chiang Mai

    ผู้ร่วมงานลงทะเบียน รับเสื้อ-หมวก-คู่มือ-กุญแจรถ ที่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ เชียงใหม่

    ชมบรรยากาศสวยงามอลังการ แห่งเมืองเชียงใหม่ ที่มีเบื้องหลังเป็นดอยสุเทพ

    รับประทานอาหารเช้า จากร้านดังประจำเมืองเชียงใหม่ คือ ปาท่องโก๋ โกเหน่ง และ โจ๊ก ต้นพยอม

    พิธีเปิดกิจกรรม Fortuner Trip Series ได้รับเกียรติจาก คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานเปิดงาน

    พร้อมด้วย คุณสรรเสริญ ศีติสาร รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ตลอดจน คณะผู้บริหารจากผู้แทนจำหน่าย บริษัท โตโยต้าเชียงใหม่ บริษัท โตโยต้าล้านนา บริษัท โตโยต้านครพิงค์เชียงใหม่ และบริษัท โตโยต้าริช เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย

    แนะนำการขับรถและเส้นทางจากผู้ชำนาญการ

    คุณแอนดี้ เขมพิมุก เป็นพิธีกรดำเนินงาน และ MC ประจำทริป ร่วมสร้างสีสันตลอดเส้นทาง

    ปล่อยตัวขบวนรถ TOYOTA Fortuner ออกจากศูนย์ประชุมนานาชาติ เชียงใหม่

    สู่สถานที่แรก คือ วัดต้นเกว๋น หรือ วัดอินทราวาส จ.เชียงใหม่

    “วัดต้นเกว๋น” วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ มากว่า 400 ปี เป็นที่สุดแห่งความงดงามของล้านนา

    ชม “วิหารมณฑปจตุรมุขไม้สักทอง” แบบพื้นเมืองล้านนา อันเป็นต้นแบบของหอคำหลวง ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งพบเพียงหลังเดียวในภาคเหนือ

    เคยเป็นสถานที่พักขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุ จากอำเภอจอมทอง มายังนครพิงค์เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นประเพณีสำคัญ ของเจ้าหลวงเชียงใหม่ในสมัยก่อน

    ร่วมพิธี “ครัวสืบชะตา” อันเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวล้านนา ที่เชื่อกันว่า เป็นการต่ออายุให้ยืนยาว เสริมศิริมงคลให้กับชีวิต

    โดยมีพระสงฆ์ทำพิธีสมาธรรม และครัวทาน (ขอขมา) เทศนาธรรมสืบชะตา เจริญพระพุทธมนต์ ด้วยสายสิญจน์ ให้นำกลับไปบูชา พร้อมพระเครื่องที่ระลึก

    สักการะพระพุทธรูป ภายในวิหารอันงดงาม

    ผู้ร่วมทริป สามารถหยิบดอกไม้บูชาพระ ที่จัดวางอยู่ที่ท้าย รถ Fortuner ที่มองด้วยตาเปล่าก็รู้เลยว่ากว้างจริง วางสิ่งของได้มากมาย

    ระหว่างการเดินทาง มีกิจกรรม “เช็ค แชะ แชร์” ให้ร่วมเล่นชิงรางวัลสูงสุดเป็น Samsung Galaxy S6 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

    เดินทางสู่ยอดดอยอินทนนท์ เหมือนได้ทดสอบรถ Fortuner ไปในตัว เอาจริงๆ นั่งแล้วรู้เลยว่าขับสบาย ถึงแม้ว่าเส้นทางสู่ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย จะทั้งสูงชันและคดเคี้ยวมาก

    ทดสอบการขับขี่ ด้วยการขึ้นเขา ลงเขา เข้าโค้ง ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

    จอดรถ Fortuner บริเวณจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ มองเห็นพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ สวยเด่นเป็นสง่า

    ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของ “พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ” พระมหาธาตุคู่พระบารมีอันยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน

    ประดิษฐานอยู่บนที่สูงสุด ในราชอาณาจักรไทย สร้างถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินี โดยกองทัพอากาศ ร่วมกับพสกนิกรชาวไทย

    บริเวณรอบๆ มีสวนดอกไม้เมืองหนาว ที่กำลังบานสะพรั่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่มาสัมผัสอากาศหนาวเย็นของเมืองเชียงใหม่

    ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 โดยผู้ร่วมทริปถ่ายรูปร่วมกับรถ Fortuner ที่จัดขบวนเป็นเลข ๙

    ออกเดินทางสู่ “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” เพื่อชมความงดงามของหมู่มวลดอกไม้นานาพันธุ์ ที่กำลังบานสะพรั่ง

    ทานอาหารกลางวันที่ “ร้านอาหารสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์”

    รับประทานสุดยอดเมนูอาหารสุดพิเศษ ปรุงจากวัตถุดิบหลัก ที่ได้มาจาก “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์”

    ใช้พืชผักผลไม้สดๆ ปลอดสารพิษ มาประกอบอาหาร ทั้ง ผักสลัด มะเขือเทศ เสาวรส องุ่นไร้เมล็ด กาแฟอาราบิก้า ฯลฯ

    ลิ้มรสเมนู “แกงเหลืองปลาเทร้าท์” ซึ่งเป็นปลาที่เลี้ยง โดยการทำประมงบนพื้นที่สูง ตามแนวพระราชดำริ

    เมนูอาหารรสเลิศ สด สะอาด ปลอดภัย มีทั้ง ออร์เดิร์ฟเมือง เห็ดออรินจิย่าง ยำตะไคร้กุ้งสด เป็ดอบกาแฟ ยำเซเลอรี่หมูย่าง ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่โสมตังกุย น้ำพริกเห็ดหอมปลาสลิด กะหล่ำทอดน้ำปลา ปลาเทร้าท์ทอดกระเทียม ฯลฯ

    เยี่ยมชมโครงการ และพูดคุยถึงประสบการณ์สุดพิเศษ กับ หลานชาย “ปู่พะโย” เจ้าของต้นกาแฟต้นแรกของไทย พระสหายบนดอยอินทนนท์ ของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙

    “ปู่พะโย”
    เป็นผู้ดูแลต้นกาแฟต้นแรก ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานให้กับชาวปกาเกอะญอ บ้านผาหมอน

    ปู่พะโย เคยเล่าให้ฟังว่า “พ่อหลวงได้มีพระราชดำรัสให้ชาวกะเหรี่ยงดูแลกาแฟต้นแรก ที่พระราชทานให้เป็นทุน ปลูกแทนฝิ่นและให้เลิกตัดไม้บนภูเขาสูง จนถึงทุกวันนี้กาแฟพันธุ์อาราบิก้า นับเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของชาวปกาเกอะญอ ที่เก็บส่งโครงการหลวงจนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เมื่อรวมระยะเวลาจนถึงทุกวันนี้กว่า 40 ปีแล้ว”

    เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเขา การทำมาหากิน เดินตามรอย “พ่อหลวง” มีจุดเยี่ยมชมต่างๆ ได้แก่


    “สวน 80 พรรษา”
    ชมไม้ดอกเมืองหนาวนานาพันธุ์ และบ่อเรนโบว์เทราท์ ที่พ่อหลวงทรงสร้างแนวทางในการเลี้ยงขึ้นมา

    “โรงเรือนจัดแสดงพรรณไม้”
    จัดแสดงพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ภายในโรงเรือน อาทิ ฟิวเซีย, ปิโกเนีย, สัปปะรดประดับ ฯลฯ

    “โรงเพาะกล้าเพื่อสนับสนุนให้เกษตรกร”
    ส่งเสริมการปลูกผักและต้นกล้า ที่ถูกต้อง เหมาะสมให้เกษตรกร อาทิ เซเลอรี่ เฟนเนล มะเขือเทศ พริกหวานเขียว เคพกูสเบอรี่ บล็อกโคลี่ดอยคำ ฯลฯ

    การเดินทางไม่เหน็ดเหนื่อยมาก เพราะ Fortuner มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย

    มีความบันเทิงภายในครบครัน เครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัส 7 นิ้ว รองรับ T-Connect เชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง Navigator

    ช่องเก็บของ Cool Box ภายในรถ Fortuner ที่เย็นฉ่ำ แช่เครื่องดื่ม สำหรับผู้ร่วมทริป

    มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า AC 220 โวลต์ (เหมือนกับปลั๊กที่บ้าน) สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่มือถือ หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์  ให้ใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด

    ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า สะดวกสบาย เปิดผ่านรีโมตได้ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Power Back Door with Jam Protection)

    เข้าพักที่ โรงแรม “Flora Creek Chiang Mai” ที่พักเมืองเชียงใหม่ ที่รายล้อมด้วยสวนดอกไม้เมืองหนาว ท่ามกลางขุนเขา และธรรมชาติ

    มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่หรูหรา และศูนย์ออกกำลังกาย

    ห้องพักสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยสีเอิร์ทโทน และระเบียงชมวิว

    มีมุมถ่ายภาพและชื่นชมดอกไม้เมืองหนาว

    ยามเย็น มาร่วมงาน “Dinner Party” เพื่อรับประทานอาหารมื้อค่ำในสไตล์ล้านนา ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์

    เดินเล่น ชิมอาหารถิ่น ใน “กาดหมั้วครัวฮอม” ที่ Toyota Fortuner เนรมิตบรรยากาศตลาดพื้นบ้านแบบล้านนา มาไว้บริเวณด้านหน้าหอคำหลวง

    ชม “ขบวนแห่บายศรี” ที่มักมีในงานต้อนรับขนาดใหญ่เท่านั้น อย่างเช่นงานนี้

    ชมการแสดงต้อนรับในสไตล์โชว์ล้านนาโบราณ

    “การแสดงฟ้อนเล็บ”
    ศิลปะที่งดงาม มักแสดงในงานฉลองสมโภช เพื่อนำขบวนทาน หรืองานมหรสพ ที่ใครต่อใครก็ชื่นชมว่าเป็นการแสดงที่อ่อนช้อย ตามแบบฉบับล้านนาแท้ๆ

    “การแสดงกลองสะบัดชัย”
    มักใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การรบ เป็นสัญญาณในการโจมตีข้าศึก และประโคมเพื่อความสนุกสนาน เร้าใจ ปัจจุบัน มักใช้ในงานต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

    “การแสดงฟ้อนเจิงดาบไฟ”
    เป็นการนำเอากระบวนท่าของการต่อสู้ มาผสมกับการร่ายรำแบบโบราณ ซึ่งมีความเก่าแก่ทางศิลปะมาอย่างยาวนาน

    ได้รับเกียรติจาก คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวต้อนรับและขอบคุณผู้ร่วมทริป ในค่ำคืนสุดพิเศษนี้

    ร่วมประเพณี “บายศรีสู่ขวัญ” อันเป็นประเพณีของชาวล้านนาแต่โบราณ เพื่อรับขวัญแขกที่มาเยี่ยมเยือน  โดยเตรียม “บายศรี” อันประกอบด้วย พุ่มดอกไม้บูชา และเครื่องเซ่นไหว้

    โดยมักขอให้พระ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ ทำพิธีผูกมือเรียกขวัญ โดยจะกล่าวถ้อยคำอันเป็นสิริมงคล และอวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุข

    ผู้ที่ให้เกียรติมาผูกข้อมือให้แก่ผู้ร่วมทริป (เรียงจากซ้ายไปขวา)
    – เจ้าภาคินัย ณ เชียงใหม่ ตำแหน่ง “ประธานมูลนิธิเจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่”
    – เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ตำแหน่ง “ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่”
    – คุณสรรเสริญ  ศีติสาร รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่

    เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ เป็นแขกคนสำคัญ ที่มาทำพิธีบายศรีย้อนยุค ให้แก่ผู้ร่วมทริป

    ฟังบทเพลงอันไพเราะ จากศิลปินล้านนา ที่มาขับกล่อมให้ความบันเทิง

    รับประทานอาหารพื้นเมือง ที่หาทานได้ยากมาก เพราะเป็นอาหารล้านนาโบราณแท้ๆ ได้แก่

    เมี่ยงกลีบบัว

    หลามปลา

    น้อยใจยา

    แกงกระด้าง

    และเมนูอาหารล้านนาอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ แกงคั่วเห็บถอบ ไก่ทอดสมุนไพร น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ลาบหมูคั่ว แกงฮังเล ฯลฯ

    รับอรุณรุ่งยามเช้า ด้วยการ “ตักบาตรดอกไม้” ประเพณีล้านนาโบราณ ณ วัดพระธาตุศรีเมืองปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่

    “ประเพณีตักบาตรดอกไม้”
    มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์มังราย เป็นการสร้างอานิสงส์ที่สูงส่ง โดยนำดอกไม้ ไปตักบาตรพระสงฆ์ เพื่อเป็นการขอขมา และขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย ที่อาจเคยล่วงเกินโดยไม่ตั้งใจ

    วัดพระธาตุศรีเมืองปง หรือ วัดอรัญญาวาส มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 170 ปี วัดตั้งอยู่เชิงเขา ขณะนี้กำลังก่อสร้าง “โลหะปราสาททิพยวิมาน” บนยอดเขาภายในบริเวณวัด

    ร่วมสมทบทุนสร้าง “โลหะปราสาททิพยวิมาน” โดย TOYOTA และผู้ร่วมทริปทุกท่าน

    “โลหะปราสาททิพยวิมาน”
    เป็นโลหะปราสาททรงล้านนาหลังแรกของโลก โดยครอบพระธาตุศรีเมืองปงไว้ด้านใน สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ การครองราชย์ครบ 60 ปี ของในหลวง รัชกาลที่ 9 และเพื่อเป็นมรดกในการสักการะบูชา

    ร่วมทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ Fortuner โดยการขับรถขึ้นไปชม “โลหะปราสาททิพยวิมาน” บนยอดเขา ที่สูงชัน คดเคี้ยว และเป็นเส้นทางวิบาก

     

    มั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control)

    ระบบ DAC ควบคุมความเร็ว ขณะลงทางลาดชัน  เพื่อความมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่

    เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ พร้อมรับ “ข้าวรัชมงคล” เป็นของที่ระลึกจาก TOYOTA

    “ข้าวรัชมงคล”
    เป็นข้าวที่เกิดจากแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานแก่โตโยต้า ให้ก่อตั้งโรงสีข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนา เนื่องจากโตโยต้ามีระบบบริหารจัดการ และนวัตกรรมที่ดี

    ขอขอบคุณทริป Fortuner Trip Series
    ที่ให้สัมผัสความสวยงามดั่งต้องมนต์ ของวัฒนธรรมล้านนา ประเพณีพื้นบ้าน อาหาร การแสดงที่หาชมยาก และความสะดวกสบาย ปลอดภัย จากรถยนต์ Fortuner ตลอดการเดินทาง

    ร่วมติดตามภาพบรรยากาศกิจกรรม Fortuner Trip Series ได้ที่
    www.facebook.com/TOYOTAFortunerThailand
    www.toyota.co.th/fortuner

  • “ชมซากุระเมืองไทย” ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

    เส้นทางชมดอกนางพญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) สีชมพูหวานบานสะพรั่ง บนดอยอินทนนท์ ที่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี และศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) โครงการในพระราชดำริ ชมพันธุ์ไม้เมืองหนาว สวนสวย และสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนยอดดอย

    “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” หรือ “ซากุระเมืองไทย” จะผลิดอกบานสีชมพูสะพรั่ง ในราวเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี

    ดอกนางพญาเสือโคร่งพบเห็นได้มาก บนยอดดอยอินทนนท์ ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นเส้นทางชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ฮอตฮิตเส้นทางหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน

    โดยเฉพาะที่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี และศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งปลูกไว้เป็นจำนวนมาก

    ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
    ตั้งอยู่ระหว่างหมู่บ้านปกาเกอะญอและหมู่บ้านม้ง ต.แม่วิน อ.แม่วาง บนดอยอินทนนท์
    เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยพันธุ์พืชและไม้ผลเมืองหนาว เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีให้กับเกษตรกร ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

    พื้นที่ในโครงการ เพาะปลูกพืชหลายชนิด อาทิ สาลี่ พลัม แมคคาเดเมีย เกาลัดจีน สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยอดนิยม ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

    พักผ่อนในบรรยากาศสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวที่สวยงาม สดชื่น เขียวขจี

    พร้อมชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ผลิดอกสวยงามช่วงฤดูหนาว ราวเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์

    และที่นี่ยังมี “อุโมงค์พญาเสือโคร่ง” เป็นจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ ต้นนางพญาเสือโคร่งที่ปลูกเป็นแถวเป็นแนว

    ยามที่ดอกบานพร้อมกัน จะเป็นสีชมพูสวยตลอดเส้นทาง (ถ่ายวันที่ 11 มกราคม 2560) มีฝนตกพรำๆ ได้บรรยากาศสวยงามไปอีกแบบ

    ชมแปลงทดลองการเกษตรภายในศูนย์ฯ

    พักทานอาหารที่ “ครัวโครงการหลวง” เป็นเมนูง่ายๆ ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ จากพืชผัก ในโครงการหลวง

    ร้านจำหน่ายของฝาก เป็นผลิตภัณฑ์ภายในโครงการหลวง ที่มีคุณภาพ พืชผักปลอดสารพิษ

    ชิมกาแฟอาราบิก้า รสเข้ม ในร้าน DOA Coffee Corner

    ติดต่อสอบถาม
    ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
    เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
    โทร. 053-318-333

    ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์
    ตั้งอยู่ที่ บ้านขุนกลาง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

    เป็นโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ที่มีความสวยงาม แต่ใกล้จะสูญพันธุ์

    ชมสวนดอกไม้และกล้วยไม้ ที่เพาะในโรงเรือน ให้เดินเข้าไปเยี่ยมชมได้ มีกล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์หลายสกุล และที่ได้รับรางวัลจากการประกวด

    ในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี มีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพู เบ่งบานอยู่ริมทะเลสาบ เป็นภาพที่งดงามน่ามอง แม้ในวันที่สายฝนโปรยปราย มีหมอกหนา (ถ่ายวันที่ 11 มกราคม 2560)

    การชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในการท่องเที่ยวฤดูหนาว ที่ไม่ควรพลาด เป็นสีสันของการเที่ยวดอย ชมความงามตามธรรมชาติ และท่องเที่ยวตามรอยพ่อหลวง ที่ได้สร้างโครงการดีๆ ไว้ให้กับคนไทยทุกคน

    ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทริป Unseen Tour Thailand

    อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่
    เมื่อดอกไม้ในสวนของพ่อบาน…เรียนรู้ เดินตาม “งานของพ่อ”
    โทร. 053-114110-5
    www.royalparkrajapruek.org

  • เที่ยวอุโมงค์ปิยะมิตร Unseen แห่งจังหวัดยะลา

    เมื่อพูดถึงจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงมีปัญหาความไม่สงบอยู่ หลายคนก็โบกมือปฏิเสธทันที เพราะเกรงจะเกิดอันตรายระหว่างการท่องเที่ยว

    แต่อันที่จริงแล้ว ยังมีบางอำเภอที่ไม่ได้รับผลกระทบ และมีทั้งธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมที่สอดแทรกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ลงไป ให้ได้มาเยี่ยมเยือน อย่างเช่นอุโมงค์ปิยะมิตร อำเภอเบตง จังหวัดยะลาที่แสดงให้เห็นถึงร่องรอยการต่อสู้ และสงครามระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและพรคคคอมมิวนิสต์ในอดีต ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความน่าสนใจให้ศึกษา

    ก่อนอื่นต้องพูดเกี่ยวกับวิธีเดินทางก่อน หากเริ่มต้นมาจากกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆที่มีสนามบินสามารถ มาลงที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาเป็นอย่างแรกก่อน ซึ่งเดี๋ยวนี้มีส่วนลดตั๋วเครื่องบินมากมายในเลือกในโลกออนไลน์อย่างSaleduck เป็นต้น จากนั้นก็สามารถเลือกต่อรถบัสหรือรถตู้ไปยังอำเภอเบตงได้ โดยมีสองวิธีการหลักๆดังนี้

    วิธีการแรกคือนั่งรถบัสหรือรถตู้จากท่ารถในอำเภอหาดใหญ่ ผ่านเข้ามาทางอำเภอเมืองจังหวัดยะลา ผ่านอำเภอธารโตซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง มาจนอำเภอเบตง

    ส่วนอีกวิธีการ หากมีพาสปอร์ต สามารถนั่งรถตู้เข้าประเทศมาเลเซียก่อน แล้วค่อยอ้อมมาเข้าทางเมืองPengkalan Hulu หรือเมืองโกร๊ะ อำเภอเบตงทางตอนใต้แทน ซึ่งปลอดภัยกว่า

    เมื่อมาถึงตัวเมืองแล้ว หากไม่ได้ขับรถมาเอง สามารถหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ หรือพยายามติดต่อบริษัททัวร์ท้องถิ่นที่จะพาไปอุโมงค์ปิยะมิตรได้ โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเบตงไม่ถึง20กิโลเมตร เรียกได้ว่าเดินทางมาไม่ยากเลย

    เมื่อเดินทางมาถึงจะเห็นซุ้มประตูพร้อมป้ายยักษ์ใหญ่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีน ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา

    ภายหลังเดินเข้าไปด้านในบรรยากาศจะเปลี่ยนเป็นป่าที่ร่มรื่นเขียวขจี พร้อมบันไดที่มุ่งตรงสู่พื้นที่ของอดีตสมาชิกพรรคจีนคอมมิวนิสต์มลายา

    พื้นที่ส่วนแรกที่จะได้เจอ จะเป็นพื้นที่สำหรับทำอาหาร และนั่งประชุม ในขณะเดียวกันก็เป็นปากทางเข้าอุโมงค์ปิยะมิตรด้วย

    หากใครอยากฟังบรรยายความรู้ประวัติศาสตร์การสู้รบและการอยู่อาศัยในพื้นที่นี้เพิ่มเติม สามารถสอบถามและพูดคุยได้จากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่บริเวณหน้าอุโมงค์เลย แต่ถ้าอยากศึกษาด้วยตัวเอง ในบริเวณใกล้เคียงก็จะมีนิทรรศการภาพเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ด้วย

    เมื่อเข้าไปในอุโมงค์ ก็จะได้สัมผัสความรู้สึกแบบที่ย้อนไปในอดีต พร้อมไฟแบบสลัวๆ ตามทางเดินจะมีข้อความบ่งชี้ว่าจุดนี้คืออะไร ใช้ทำอะไร เช่นที่นอน ที่นั่ง ที่ประชุม เป็นต้น ซึ่งระยะทางในอุโมงค์นี้มีความยาวประมาณ1กิโลเมตร คดเคี้ยวไปมาภายในภูเขา มีอากาศถ่ายเท และเย็นสบาย แม้ภายนอกจะร้อนมากก็ตาม

     

    สำหรับอุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2519 ใช้แรงงานคนขุดประมาณ 40-50 คน ใช้เวลาสร้างประมาณ3เดือนเท่านั้น เพื่อเป็นสถานที่หลบภัยทางอากาศ รวมถึงสะสมเสบียงสำหรับการต่อสู้ระหว่างโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.)กับรัฐบาลมาเลเซีย ปัจจุบันไม่มีผู้อาศัยภายในแล้ว แต่ยังมีร่องรอยต่างๆหลงเหลือกระจัดกระจายอยู่รอบๆ

    เมื่อเดินออกมาภายนอกอุโมงค์ก็จะพบทั้งป่าไม้ และลำธารที่ค่อนข้างสะอาดและสดชื่น รวมถึงต้นไทรพันปี ที่มีขนาดลำต้นสูงใหญ่มาก จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินที่สำคัญของนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางกลับ

    ด้วยเรื่องราวของสถานที่อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความน่าสนใจของการก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้กลางป่าลึก อุโมงค์ปิยะมิตรจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน หากได้มีโอกาสมาเที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา

    ส่วนใครที่เล็งจะไปแล้ว แต่ยังไม่มีที่พัก หรืออุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการเดินทาง สามารถเปิดเข้าไปเลือกหาส่วนลดต่างๆจากเว็บไซต์ www.saleduck.co.th ได้ตลอดเวลา วิธีการใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่กดเลือกคูปองส่วนลดจากร้านค้าที่คุณต้องการ แล้วนำโค้ดไปใช้เมื่อคุณจัดการซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองที่พักเท่านั้น ง่ายๆเท่านี้เอง หรือหากต้องการหาคำแนะนำสำหรับเที่ยวเบตง สามารถติดตามได้ที่นี่ http://blog.unseentourthailand.com/piyamit/

  • ชวนเที่ยว “ดอยตุง” จ.เชียงราย

    ชมความงามของ ขุนเขา สายหมอก ชมสวนดอกไม้ จิบกาแฟดอยตุง และอาหารพื้นเมือง บนดอยตุง พักในโรงแรมใกล้ชิดธรรมชาติ ที่ “ดอยตุง ลอด์จ” เที่ยวตามรอยพระบาท แหล่งเรียนรู้เพื่อชุมชน น่าชมและช้อป งานหัตถกรรมทำมือ อาทิ ผ้าทอ กระดาษสา เซรามิก และกาแฟคั่ว

    ศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานมือ

    ตั้งอยู่เชิงดอยตุง บนเนื้อที่ 52 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของงานพัฒนาของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่โครงการ

    โดยศูนย์มีการจัดอบรมพัฒนางานฝีมือชนเผ่าต่างๆ โดยมีการออกแบบให้ทันสมัย ภายใต้แบรนด์ DOITUNG

    มีงานผ้าและพรมทอมือ เครื่องปั้นดินเผา กระดาษสา เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นต่างๆ

    มีช่างฝีมือทำงานถึง 300 คน ตั้งแต่รุ่นยาย แม่ ลูก หลาน ทำให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากัน ไม่ต้องไปทำงานในเมืองไกลบ้าน

    งานทอผ้า ใช้เครื่องจักรเพียง 1% เท่านั้น (สำหรับเย็บ) ที่เหลือเป็นงานทำมือล้วนๆ จึงเป็นที่ต้องการของตลาด และสามารถทำราคาได้

    “ศูนย์เครื่องปั้นดอยตุง”
    สามารถเดินชมกรรมวิธีในการทำงานปั้นเซรามิก ในทุกขั้นตอน

    มี Workshop ให้นักท่องเที่ยวได้ฝึกทำชิ้นงาน เป็นของตนเอง ที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก เป็นการเพนต์แก้วเซรามิก ด้วยน้ำดินผสมสี พร้อมให้นำกลับไปเป็นที่ระลึก

    ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของที่นี่ จะส่งให้กับ IKEA ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ทั้ง ผ้าทอ เซรามิก และกระดาษสา บ่งบอกถึงความเนี้ยบ มีคุณภาพ จากฝีมือชนเผ่าในพื้นที่

    โดยมีช่างผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น มาช่วยสอนเทคนิคในการทำเซรามิก ให้งานดอยตุงมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น

    “กาแฟดอยตุง”
    ได้รับการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีคุณลักษณะพิเศษเฉพาะทางภูมิศาสตร์ เป็นเครื่องรับประกันคุณภาพกาแฟไทยที่ผลิตจากแหล่งเดียว คือ บนดอยตุงเท่านั้น

    เป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ที่มีกระบวนการผลิตมาตรฐานสูง ปราศจากสารพิษจากเชื้อรา ซึ่งโครงการฯ มีไร่กาแฟปลูกระจายอยู่ในพื้นที่ของดอยตุง

    พักชิมกาแฟคั่วดอยตุง เป็นกาแฟสด เสริฟแก้วต่อแก้ว หอมกรุ่น ได้รสชาติกาแฟแท้ๆ

    “โรงคั่วกาแฟ”
    ชมกระบวนการผลิตกาแฟ จากเมล็ดที่ตากแห้ง นำไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะนำส่งโรงคั่ว

    พืชในป่าเศรษฐกิจที่ดอยตุง นอกจากกาแฟแล้ว ยังมี “ถั่วแมคคาเดเมีย” ที่มีคุณภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของดอยตุง

    พระตำหนักดอยตุง

    พระตำหนักทรงชาเล่ต์สวิส-ล้านนา เป็น “บ้านที่ดอยตุง” ของสมเด็จย่า ระหว่างทรงงานที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เน้นความเรียบง่าย แกะสลักด้วยไม้แกะสลักลวดลายพื้นบ้านล้านนา

    รอบระเบียงพระตำหนักเป็นกระบะดอกไม้แบบสวิส ด้านหน้าเป็นสวนดอกไม้หลากสี มองเห็นไกลถึงอำเภอแม่จัน เชียงแสน แม่น้ำโขง และทิวเขาฝั่งลาว

    สวนแม่ฟ้าหลวง

    ตั้งอยู่ในหุบเขา ใกล้พระตำหนัก บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ตามพระราชดำริของสมเด็จย่า ที่ต้องการให้คนไทยที่ไม่มีโอกาสไปต่างประเทศ ได้ชื่นชมดอกไม้เมืองหนาว

    สวนแห่งนี้มีการดูแลปรับเปลี่ยนดอกไม้นับร้อยสายพันธุ์ สวยงามตลอดทุกฤดูกาล ไม่ซ้ำแบบกันในแต่ละปี

    ผู้ดูแลสวน จะเปลี่ยนดอกไม้ 30% ของพื้นที่ ทุกๆ 10 วัน เพื่อให้สวนมีดอกไม้สวยงามตลอด 365 วัน

    นับเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้ที่มาเยือนเชียงราย เพื่อมาชมดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยงาม

    “ทางเดินเรือนยอดไม้”

    DoiTung Tree Top Walk  ที่เที่ยวแห่งใหม่ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 เป็นกิจกรรมใหม่ภายในสวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง

    เป็นทางเดินเรือนยอดไม้ สำหรับเดินศึกษาธรรมชาติในมุมมองใหม่ บนสะพานสลิงที่ยึดโยงกับต้นไม้ใหญ่ แกว่งไกวพอให้ตื่นเต้น

    ปลอดภัยด้วยอุปกรณ์เซฟตี้ ได้มาตรฐานสากล

    ระยะทางรวมประมาณ 300 เมตร บรรยากาศระหว่างเส้นทาง แตกต่างกันไป ตามสภาพภูมิอากาศของแต่ละวัน บางวันอาจปกคลุมได้ด้วยหมอก บางวันท้องฟ้าแจ่มใส ได้เดินอยู่บนยอดไม้ ท่ามกลางป่าเขียวขจี และอากาศเย็นสบายตลอดปี

    ให้เดินได้รอบละ 13 คน วนไปทุก 30 นาที ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.

    บ้านพักบนดอยตุง
    “ดอยตุง ลอด์จ”  ให้บริการห้องพักแบบรีสอร์ทที่ตกแต่งอย่างสวยงาม อยู่ในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ อยู่ห่างจากพระตำหนักประมาณ 500 เมตร

    มีห้องวิวภูเขา และห้องวิวสวน ให้เลือกตามความต้องการ สวยทั้งสองแบบ

    เป็นที่พักแบบเรียบง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน ได้มาตรฐาน อาทิ เครื่องปรับอากาศ Internet Wifi เคเบิ้ลทีวี  มินิบาร์ ฯลฯ

    สัมผัสอากาศหนาวเย็น ขุนเขา สายหมอก และดอกไม้บนดอยตุง พักผ่อนในบรรยากาศสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ

    ชมความงดงามจากยอดดอยตุงในยามเช้า เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดจุดหนึ่งบนดอยตุง ทิวทัศน์เบื้องล่าง เป็นหมู่บ้านต่างๆ และท้องนาของอำเภอแม่จัน

    “ดอยตุง ลอด์จ” เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอาชีพ ให้เรียนรู้งานด้านการโรงแรม เช่น งานต้อนรับ การจัดตกแต่งห้องพัก งานทำอาหาร และการบริการ เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้ฝึกงานบริการ สร้างรายได้ให้ครอบครัว

    พนักงานจึงให้การต้อนรับ และบริการที่อบอุ่น เหมือนเป็นบ้านของพวกเขาเอง

    มีบริการอาหารเช้ารวมอยู่ในราคาที่พัก ด้วยเมนูสุขภาพ สด ใหม่ จากผลผลิตคุณภาพบนดอยตุง และปลอดสารพิษมากที่สุด พร้อมชมวิวที่สวยงาม ในห้องอาหารแบบ Open-air

    สำรองห้องพัก “ดอยตุง ลอด์จ”
    โทร.  (053) 767015-17 ต่อ 2230, 2231


    ห้องอาหาร “ครัวตำหนัก”
    บริการอาหารพื้นเมือง ที่ปรุงจากพืชผักสดๆ ในโครงการ ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้อาหารมีรสชาติอร่อย เป็นเอกลักษณ์ด้วยสูตรเฉพาะ


     

    ด้วยเมนูที่ทำถวายพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จมาประทับแรม

    เพลิดเพลินกับ “งานสีสันแห่งดอยตุง” ซึ่งเป็นงานถนนคนเดินที่สวยงาม ได้สัมผัสวัฒนธรรมชนเผ่า และผลิตภัณฑ์คุณภาพในบรรยากาศสบายๆ ซึ่งจุดขึ้นในช่วงปลายปี จนถึงต้นปีหน้า

    ซึ่งปีนี้ใช้ชื่องานว่า “ดอยตุง สืบสาน บันดาลใจ” ตรงกับวันที่ 3 ธ.ค. 2559- 29 ม.ค. 2560 ทุกเสาร์ – อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงวันหยุดพิเศษ 24 ธ.ค. 2559- 3 ม.ค. 2560 ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เชียงราย

    สอบถามเพิ่มเติม

    โครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
    โทร. (053)716015-17,  (053)767015-17
    www.doitung.org
    www.facebook.com/DoiTungClub

    ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนทริป Unseen Tour Thailand
    โครงการ Chill Out Thailand2 ตามรอยรางวัลกินรี
    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. กลุ่มสารสนเทศการตลาด